น้ำผึ้งหยดเดียว สงครามกลางเมือง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/579058

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 19 ก.พ. 2559 05:01

 

นายสมพร ดำพริก ประธานสภาทนายความจังหวัดมีนบุรี เชิญร่วมงานวันทนายความ พบปะสังสรรค์กัน 18.00-22.00 น. ของวันเสาร์พรุ่งนี้ ที่ศาลาประชาคมเขตมีนบุรี พบวงดนตรี จ๊ะ อาร์สยาม และวงดนตรีลูกทุ่งสุโขทัยของ ม.รามคำแหง

เมียนมาเคยมี 2 สถาบันหลักที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คน คือ สถาบันกษัตริย์และสถาบันศาสนาพุทธอันแข็งแกร่ง

ภายหลัง อังกฤษทำลายสถาบันกษัตริย์ แต่คนเมียนมาก็ยังอยู่ได้ด้วยการยึดเอาศาสนาพุทธเป็นสรณะ

ส่วนสถาบันชาติของเมียนมานั้นเปราะบางมาก ความผูกพันกันของผู้คนแต่ละเผ่าพันธุ์มีน้อย แม้แต่วันที่ผมเขียนเปิดฟ้าส่องโลก รับใช้ผู้อ่านท่านอยู่นี่ ก็ยังมีการรบกันระหว่างสภาเพื่อการกอบกู้รัฐชานและกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง

ไทยเป็นประเทศโชคดีที่มีทั้ง 3 สถาบันหลักอันแข็งแกร่ง ทั้งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แต่ในห้วงสองปีมานี้ สถาบันศาสนาสั่นคลอนมาก คลิปที่แพร่ขยายกระจายในโซเชียล–มีเดีย มีคำพูดหยาบคายของผู้คนที่ด่าทอพระภิกษุ ทำให้เราเข้าใจ ได้ว่า ศาสนาที่เคยฝังลึกอยู่ใต้สมองของคนไทยนั้น บัดนี้ได้ถูกทำลายไปแล้วส่วนหนึ่ง

สังคมไทยต้องรีบแก้เรื่องนี้ครับ ไม่เช่นนั้นเราจะต้องทุกข์อยู่ในประเทศที่มีความแตกแยกทางศาสนาไปอีกนาน ใครที่ชอบ อ่านประวัติศาสตร์ก็คงจะเข้าใจนะครับ ว่าความแตกแยกที่เกิดขึ้นมาแล้ว ก็จะสร้างความทุกข์ให้คนในชาติ ที่บางครั้งนานเป็นร้อยปี

ความแตกแยกรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทยวันนี้ คือสิ่งที่เคยเกิดในประเทศที่มีสงครามกลางเมืองมาแล้วทั้งสิ้น ต้องยอมรับครับว่า มือที่มองไม่เห็นของกลุ่มคนที่ชำนาญในทฤษฎีสมคบคิดทำงานได้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยุให้พุทธทะเลาะกับพุทธ พุทธทะเลาะกับมุสลิม และมุสลิมทะเลาะกับมุสลิม

หลายจังหวัดทางภาคเหนือของไทย มีชาวพุทธบางกลุ่มออกมาต่อต้านมุสลิมอย่างเปิดเผย มีการจัดอภิปรายโจมตีใส่ร้ายกันในที่สาธารณะ ประเด็นนี้อ่อนไหวมาก และเชื่อผมเถิดครับ ว่าต่อไปจะบานแน่นอน เปิดแผลเหวอะไว้แล้ว เชื้อโรคก็จะเข้ามาสู่ร่างกายของเรา จนเราจะกลายเป็นผู้ป่วยคนใหม่ของเอเชียอย่างที่เขาพูดกัน

เรื่องความแตกแยกระหว่างศาสนาพุทธกับศาสนาอิสลามนี่ ท่านโปรดอย่าย่ามใจว่าไม่มีอันตราย สถานการณ์จะบานปลายจากน้ำผึ้งเพียงหยดเดียว เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ไม่มีใครหยุดได้ กลุ่มการก่อการร้ายในภูมิภาคและระดับโลกจะต้องกระโจนลงมาร่วมเล่นด้วยแน่นอน เพราะพวกนี้กำลังหาความชอบธรรมที่จะเข้ามาสร้างความยุ่งยากอยู่แล้ว

เปิดฟ้าส่องโลกเคยเขียนเปรียบเทียบว่า ความขัดแย้งในประเทศไทยจะลามปามออกไปในทุกภาคส่วนเหมือนมะเร็ง ภายหลังก็มี หลายท่านมาต่อยอดด้วยคำพูดที่ว่า เรากำลังจะกลายเป็นราชอาณาจักรมะเร็ง ถึงปัจจุบันนี้ คำกล่าวนี้ก็ไม่เกินความเป็นจริงเลยครับ เพราะมองไปทางใด เรามีปัญหาความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง

สิบกว่าปีก่อน พ่อผมไปเยือนสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ก่อนกลับ ผู้ช่วยกงสุลซึ่งเป็นชายหนุ่มชาว ซีเรียความรู้ดีพาครอบครัวมาพบ และขอให้พ่อผมช่วยรับตนมาทำงานในไทย ส่วนพี่ชายซึ่งเป็นแพทย์ก็จะพยายามไปทำงานในอังกฤษ

สมัยนั้น สถานการณ์ในซีเรียยังนิ่งมาก ไม่มีใครคิดว่าจะมีสงคราม ยกเว้นครอบครัวของผู้ช่วยกงสุล ที่ทำนายทายทักว่า ในอนาคตซีเรียน่าจะมีสงครามกลางเมือง โดยทำนายเอา จากการที่ผู้คนจากหลายภาคส่วนเริ่มขัดแย้งกันรุนแรง

พ่อผมพาผู้ช่วยกงสุลคนที่ว่ามาเป็นเลขานุการสถาบันเอเชียและแอฟริกาศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ส่วน พี่ชายของกงสุลไปหางานทำได้ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร จากนั้น ครอบครัวนี้ก็ค่อยๆทยอยย้ายสมาชิกในครอบครัวทุกคนไปปักหลักที่แคนาดา

ความขัดแย้งที่ระอุอยู่ในสังคมซีเรีย สุดท้ายก็ระเบิดกลายมาเป็นสงครามกลางเมืองอย่างรุนแรง

สิ่งที่สังคมไทยต้องเร่งสร้างที่สุดในตอนนี้ก็คือ การเรียนรู้เรื่องศาสนาต่างๆของคนไทย เพื่อให้มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง

อย่าให้มือที่มองไม่เห็นมาบิดเบือนข้อเท็จจริงจนมองศาสนาอื่นเป็นศัตรู และสุดท้ายก็ลงด้วยสงครามกลางเมือง.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

Leave a comment