ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/578538
โดย คุณนิติ นวรัตน์ 18 ก.พ. 2559 05:01

ศอ.บต. เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูด “อาเซียนกับการเตรียมความพร้อมของข้าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้” รับใช้ข้าราชการบรรจุแต่งตั้งใหม่รุ่นที่ 4 จำนวน 220 คน ที่โรงแรมบีพี แกรนด์ทาวเวอร์ จ.สงขลา พฤหัสบดีวันนี้ 09.00-12.00 น.
อีก 2 วัน ทีมงานเปิดเลนส์ส่องโลกจะไปเยือนกรุงหริหราลัยเป็นครั้งที่ 3 ระหว่าง 20-22 กุมภาพันธ์ หลายท่านถามว่า การสร้างปราสาทหินในกัมพูชา เช่น ปราสาทต่างๆ ในกรุงหริหราลัย ในนครวัดนครธม หรือที่เขาพระวิหาร ได้รับอิทธิพลมาจากที่ไหน ขออนุญาตตอบเลยครับ ว่าได้รับอิทธิพลของทมิฬ ซึ่งปัจจุบันก็คือรัฐทมิฬนาฑูของอินเดีย
ต้นแบบอารยธรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงตัวอักษรในประเทศทางแถบนี้ทั้งหมด ไม่ว่าชวา บาหลี มอญ เมียนมา กัมพูชา ไทย ลาว มาจากอักษรปัลลวะในอินเดียใต้ทั้งสิ้น อักษรคฤนถ์แบบที่พวกปัลลวะใช้เป็นต้นแบบของอักษรยุคแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผู้ก่อสร้างกรุงหริหราลัยคือพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 กษัตริย์ขอมซึ่งเฉลิมพระนามด้วยสร้อยต่อท้ายว่าวรมัน ก็เฉลิมพระนามเช่นเดียวกับพระนามของกษัตริย์ปัลลวะ หลักฐานอีกอย่างก็เจอกันที่ จ.นครปฐม มีการค้นพบจารึก คาถาเยธัมมา เขียนด้วยอักษรปัลลวะ ภาษาบาลีว่า เตสังเหตุง ตถาคโต เตสัญจะ โย นิโรโธ…
ราชวงศ์ปัลลวะปกครองครึ่งบนของรัฐทมิฬนาฑูของอินเดียระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12-13 ร่วมเวลากับยุคทวารวดีของไทย ส่วนครึ่งล่างของรัฐทมิฬนาฑูนั้น ราชวงศ์ปาณฑยะปกครองระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12-20 อาณาจักรขอมโบราณที่อังกอร์หรือที่เมืองพระนครที่เราข้ามชายแดนไทยไปดูปราสาทต่างๆกันที่กัมพูชานี่ น่าจะตรงกับสมัยราชวงศ์โจฬะที่ปกครองทมิฬนาฑูระหว่างพุทธศตวรรษที่ 15-17 และแผ่แสนยานุภาพทางการทหาร โดยใช้กองทัพเรือ โจละแล่นข้ามอ่าวเบงกอลมายึดครองดินแดนที่ในปัจจุบันเป็นดินแดนของอินโดนีเซีย (บางส่วน) มาเลเซียและภาคใต้ของไทย
สมัยกรุงศรีอยุธยาก็น่าจะตรงกับยุคของราชวงศ์วิชัยนครปกครองซึ่งอยู่ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 19-21 มีศูนย์กลางอยู่ที่วิชัยนคร ซึ่งปัจจุบันทุกวันนี้คือเมืองฮัมปิในรัฐกรณาฏกะของอินเดีย
ใครอยากศึกษาเรื่องราวซึ่งเคยเกิดบนแผ่นดินไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน และอินโดนีเซีย ผมขอแนะนำให้ไปเยือนจังหวัดเสียมราฐของกัมพูชา และเอาความรู้ที่ได้ไปเชื่อมกับเรื่องในอดีตของรัฐทมิฬนาฑูของอินเดีย ที่มีพื้นที่ 130,058 ตร.กม. อยู่ติดกับอ่าวเบงกอล มหาสมุทรอินเดีย รัฐเกรละ รัฐกรณาฏกะ และรัฐอานธรประเทศ ทมิฬนาฑูเพียงรัฐเดียวมีประชากรเท่ากับไทยคือ 70 ล้านคน
คณะของพ่อของผมเคยนั่งรถจากกันนิยากุมารีเมืองใต้สุดของอินเดียขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ไปที่เมืองมธุไร ต่อไปจนถึงเมืองติรุชชิรัปปัลลิ ข้ามไปยังเมืองตัญชาวูร์ขึ้นไปจนถึงเมืองจิตัมพรัม และขับรถเลียบริมชายทะเลเข้าไปที่เมืองพูดุชเชอรี เมืองมามัลละปุรัมวกเข้าไปเมืองกาญจีปุรัมขึ้นไปจนสุดที่เมืองหลวงของรัฐ คือเจนไน
การตระเวนไปในรัฐทมิฬนาฑูทำให้เห็นวิวัฒนาการด้านรูปแบบของเทวาลัยในระยะหลายพันปี เมื่อไปเห็นที่กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กรุงหริหราลัย ก็ร้องอ๋อทันทีเลยครับ เช่น การไปเห็นการแกะภาพเปรียะคเณษะ (พระพิฆเนศ) เปรียะเนียเรย (พระนารายณ์) เปรียะศิเวียะ (พระศิวะ) บนโขดหินหรือในหน้าผาแถวเปิงกุมนูในหมู่บ้านจบเลอ อ.สวายเลอ จ.เสียมราฐ หรือที่เปิงเอยเซยบนเทือกเขามเหนทรบรรพต จ.เสียมราฐ ก็คล้ายกับการขุดสกัดศาสนสถานจากโขดหินหรือหน้าผาในสมัยปัลลวะของอินเดีย หรือการขุดเจาะภูเขาหินเป็นห้องเล็กๆ ที่คนกัมพูชาเรียกรูอาศรอมที่เปิงเอยเซย ก็เหมือนกับการขุดเจาะภูเขาหินเป็นห้องเล็กๆที่ดินแดนทมิฬสมัยรัชกาลพระเจ้านรสิงหวรมันที่ 1 ของอินเดีย
ในกรุงหริหราลัยมีสระดำเรยซึ่งเป็นสถานที่ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ของขอมปรอกะเอกเรียจ (ประกาศเอกราช) ไม่ขึ้นกับชวา มีการแกะสลักหินให้เป็นรูปช้างและรูปสิงห์ ผมดูภาพที่พ่อของผมถ่ายมา ก็คล้ายกันมากกับช้างและสิงห์ที่ปัญจปาณฑพรถะ เมืองมามัลละปุรัม ที่รัฐทมิฬนาฑู
การศึกษาเรื่องอย่างนี้ ทำให้เราสามารถเชื่อมโยงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้ากับอินเดียได้อย่างแนบเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การท่องเที่ยว และการทำมาค้าขายมากครับ.
คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand