จับตาเพื่อแม้ว-ธรรมกายรวมหัว ดับเครื่องชนสู้เลือดเข้าตา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/202935

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559, 02.00 น.

นับเป็นวิบากกรรมที่ใกล้ปิดฉากเข้าไปทุกขณะสำหรับสำนักจานบินกับขบวนการเพื่อแม้วที่กำลังจะจำนนต่อความจริง กฎหมาย และที่สำคัญคือกฎแห่งกรรม ซึ่งอาจด้วยภาวะที่สองพันธมิตรใกล้จนตรอกนี่เองจึงจับมือกันแบบแยกกันเดินแต่ร่วมกันตีเพื่อเปิดศึกดับเครื่องชนแบบไม่มีอะไรจะเสียซึ่งสะท้อนให้เห็นจากม็อบผ้าเหลืองที่ออกมาแสดงพลังเปิดศึกแตกหัก ขณะที่เครือข่ายสาวกเพื่อแม้วดาหน้าถล่มคสช.อย่างเหิมเกริมไม่เกรงกลัวอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกต่อไป

สำหรับสำนักจานบินนั้นหัวขบวน คือ ธัมมชโย รวมทั้งสมเด็จช่วง แห่งวัดปากน้ำผู้เป็นอาจารย์กำลังเผชิญวิบากกรรมครั้งสำคัญโดยต่างพัวพันคดีอื้อฉาวล่าสุดที่อาจชี้ชะตาจุดจบของสองอาจารย์และศิษย์ โดย ธัมมชโยกำลังจะถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษฟ้องดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินและรับของโจรจาก นายศุภชัยศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเป็นคนสนิทของ ธัมมชโย โดยคดีนี้มีการยักยอกเงินฝากคนเฒ่าคนแก่ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไปกว่า 16,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมีการเล่นแร่แปรธาตุโอนเข้าบัญชี ธัมมชโย และเครือข่ายในสำนักจานบินเบื้องต้นเท่าที่ตรวจพบเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

ส่วน สมเด็จช่วง ในฐานะประธานมหาเถรสมาคม (มส.) นอกจากมีชนักปักหลังกรณีส่อปกป้องธัมมชโย ไม่ให้ต้องปาราชิกพ้นความเป็นพระอันเป็นการขัดพระบัญชา สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชฯ แล้ว ล่าสุดดีเอสไอยังชี้ว่า สมเด็จช่วง ครอบครองรถเบนซ์โบราณที่สะสมไว้ในพิพิธภัณฑ์รถโบราณภายในวัดปากน้ำอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งหากมีความผิดจริงก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งนอกจากจะทำให้หนทางสู่เก้าอี้พระสังฆราชดับวูบแล้ว ยังอาจปาราชิกพ้นความเป็นสงฆ์ ด้วยหากไม่สามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจนว่าครอบครองรถผิดกฎหมายคันดังกล่าวได้อย่างไร

ไม่เพียงม็อบผ้าเหลืองภายใต้การนำของ พระเมธีธรรมาจารย์ หรือที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่าแท้ที่จริงก็คือ นายประสาร หนองพร้าว อดีตแกนนำเสื้อแดงอีสาน ที่ออกมาดับเครื่องชนเพื่อปกป้อง สมเด็จช่วงและ ธัมมชโย อยู่ในที แกนนำขบวนการเพื่อแม้วอย่าง นายจตุพรพรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดง และ นายจักรภพ เพ็ญแข หนึ่งในคนใกล้ชิดอดีตนายกฯ นักโทษหนีคุกซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูงและอีกหลายคดี ก็ออกมาประกาศปกป้องขบวนการสำนักจานบินแบบสุดตัว

ทั้งนี้เพราะสองพันธมิตรขบวนการเพื่อแม้วและสำนักจานบินคงต่างรู้ดีว่าสถานการณ์ของตัวเองขณะนี้คับขันและใกล้เข้าตาจนเข้าไปทุกขณะ ซึ่งทางเดียวที่จะเอาตัวรอดคือจับมือกันระดมสรรพกำลังสู้ขั้นแตกหักแบบไม่มีอะไรจะเสีย

ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์จากนี้ไปจึงต้องจับตาอย่ากะพริบเพราะคนที่ใกล้จนตรอกพร้อมที่จะสู้แบบเลือดเข้าตาและทำสิ่งเลวร้ายโดยไม่คำนึงถึงความหายนะใดๆ ที่จะเกิดกับชาติบ้านเมือง

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment