ถึงเวลาสังคายนามส.-พศ. ลบภาพเสื่อมร่างทรงธัมมชโย?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/201024

วันเสาร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559, 02.00 น.
จากนี้ไปคงต้องดูท่าทีของมหาเถรสมาคม(มส.) ซึ่งมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ อาจารย์ของธัมมชโย เจ้าลัทธิจานบินเป็นประธาน และนายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ยังจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนต่อไปอีกหรือไม่ หลังจากที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง หัวหน้าพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้มีหนังสือถึงทั้งสองหน่วยงานเพื่อให้จับสึกธัมมชโยตามพระบัญชาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ที่ชี้ชัดตั้งแต่เมื่อปี 2542 ว่าธัมมชโยทำผิดร้ายแรงขั้นปาราชิกพ้นความเป็นพระฐานยักยอกเงินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวเกือบ 1,000 ล้านบาท และทำผิดพระธรรมวินัยเผยแพร่ลัทธิส่อขัดต่อคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมส.และพศ.ถูกตั้งข้อสังเกตมานานแล้วว่าพยายามอุ้มธัมมชโยมาตลอด แต่ครั้งนี้ดีเอสไอยื่นโนติสให้ พศ.ดำเนินการกับธัมมชโยโดยเร็ว เพราะหากยังแกล้งดื้อตาใสมีสิทธิเข้าคุกด้วยมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญาฐานเป็นเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

หลายปีที่ผ่านมา หลังยุคระบอบทักษิณเรืองอำนาจสุดขีดทั้งระบอบทักษิณและสำนักจานบินซึ่งเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นพยายามผูกขาดอำนาจทั้งฝ่ายอาณาจักรและศาสนจักรหวังยึดครองประเทศแบบเบ็ดเสร็จ โดยระบอบทักษิณตั้งคนของตัวเองเข้าไปควบคุมอำนาจในทุกหน่วยราชการทุกระดับรวมทั้ง พศ. ขณะที่สำนักจานบินถูกตั้งข้อสังเกตว่าใช้ผลประโยชน์ครอบงำ มส. ดังนั้นอิทธิพลของระบอบทักษิณและสำนักจานบินจึงยังฝังรากลึกในทุกองคาพยพ ของประเทศมาจนบัดนี้

อาจจะด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมา มส.และ พศ.จึงส่อพฤติการณ์ปกป้องธัมมชโยมาตลอด ถึงขั้นกล้าขัดพระบัญชาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ด้วยการลงมติฟอก ธัมมชโย จนบริสุทธิ์ผุดผ่องและไม่ต้องถูกจับสึก

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มส.และ พศ.ถูกมองว่าเป็นแดนสนธยาที่มีพฤติการณ์ส่อเป็นร่างทรงของขบวนการพันธมิตรระบอบทักษิณ กับสำนักจานบิน ถึงขนาดอดีตผู้บริหาร พศ.บางคนไปร่วมชุมนุมกับม็อบเสื้อแดง

ความเสื่อมและเป็นอันตรายต่อพุทธศาสนาและความมั่นคงของชาติของ มส.และพศ.ทำให้มีผู้เสนอให้สังคายนา มส.และพศ.อย่างจริงจังเสียทีในยุคปฏิรูปประเทศภายใต้อำนาจพิเศษของคสช. เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนมีรัฐบาลลากตั้ง โดยเฉพาะเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณแน่นอนว่าหมดโอกาสชำระล้างความเน่าเฟะในมส.และพศ.อีกต่อไป ซ้ำความชั่วร้ายต่างๆ ในวงการผ้าเหลืองอาจจะเฟื่องฟูมากกว่าที่เป็นอยู่

เพราะฉะนั้นอาจถึงเวลาแล้วและนับเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งสำหรับการชำระล้างวงการพระพุทธศาสนาให้ขาวสะอาด ด้วยการสังคายนาทั้งตัวบุคคลและแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้มส.และพศ.กลับมาเป็นหน่วยงานที่สะอาดโปร่งใสตรวจสอบได้อย่างแท้จริง และเพื่อไม่ให้เหล่าอลัชชีในคราบผ้าเหลืองมีช่องทางแสวงหาอำนาจผลประโยชน์เสพสุขอย่างลอยนวล

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment