เกษตรแฟร์…สู้แล้ง ชวนเลี้ยงมดแดงแยงไข่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/568199

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 27 ม.ค. 2559 05:01

 

ราชินีมดแดง

“น้ำไม่มี ให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย แล้วจะเอาน้ำที่ไหนมารดให้โต” เสียงค่อนแคะของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง…แต่น้ำไม่มี ใช่จะทำกินไม่ได้เอาซะเลย

“ไข่มดแดงช่วยชาติ” เป็นหนึ่งในผลงานวิจัยเกี่ยวกับภัยแล้งที่จะถูกนำมาแสดงในงาน “งานเกษตรแฟร์ 2559 เกษตรศาสตร์นำไทย สู้ภัยแล้ง” ระหว่าง 29 ม.ค.-6 ก.พ.นี้ …เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกร เพราะไร้ต้นทุน พึ่งพาน้ำแค่จิ๊ดเดียว

“การหาไข่มดแดง เลี้ยงมดแดงทั่วๆไปได้ผลผลิตน้อย ต้นต้นหนึ่งได้ไข่แค่ 10 กรัม และต่อให้ต้นไม้มีรังเยอะ อย่างเก่งได้ไข่ไม่เกิน 2-3 ขีด เราเลยมาวิจัยจะทำยังไงถึงจะได้ไข่ต้นละ 2-3 กก. เพราะวันนี้ไข่มดแดงไม่ได้เป็นที่ต้องการเฉพาะในบ้านเรา อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น มีความต้องการมาก แต่เราไม่สามารถผลิตให้ได้เท่านั้น นอกจากจะนำไปทำเป็นอาหาร ยังสามารถทำครีมทาผิวให้ขาวได้ด้วย”

รศ.เดชา เกาะต้นไม้หารังราชินี

รศ.ดร.เดชา วิวัฒน์วิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า วันนี้การวิจัยเรื่องมดแดงได้ก้าวข้ามการเลี้ยงเพื่อให้ได้ไข่มากขึ้นไปแล้ว…ถึงขั้นสามารถทำให้เกษตรกรมีที่ดิน มีต้นไม้ แต่ไม่มีมดแดง สามารถเลี้ยงมดแดงได้

“มดแดงเหมือนผึ้งและปลวก ราชินีอยู่ที่ไหน มดแดงจะอยู่ที่นั่น จะเลี้ยงมดแดง เกษตรกรต้องหาตัวราชินีให้เจอก่อน เพราะถ้าจะไปตัดรังมาวางโดยไม่มีราชินีติดมาด้วย มดแดงจะไม่อยู่กับเรา”

เกาะกลุ่มปกป้องราชินี

การหาราชินี รศ.เดชา บอกว่า รังมดแดงที่เราเห็นไม่ได้มีราชินีไปทุกรัง รังของราชินีจะไม่ใหญ่ ขนาดแค่กำปั้นมือ จะรู้ให้แน่ชัดต้องใช้วิธีเคาะต้นไม้แล้วสังเกต รังไหนถ้ามีมดแดงวิ่งกรูกันออกมา รังนั้นไม่ใช่…แต่ถ้ารังไหนมีมดแดงรวมจับตัวกันเป็นก้อน เหมือนปกป้องบางสิ่งบางอย่าง…รังนั้นมีราชินี

ตัดกิ่งรังมาใส่ถุง เอามดแดง มดงานติดมาด้วยเยอะๆยิ่งดี เพราะราชินีจะได้มีกำลังพลมาช่วยสร้างอาณาจักรใหม่ได้เร็ว…เอามาแขวน มาวางตรงโคนต้นไม้ที่เราใช้เป็นที่เลี้ยงมดแดงนั่นแหละ

ต้นไม้ที่เหมาะจะเลี้ยงต้องมีใบอ่อน อย่างมะม่วงหรือชมพู่ ต้นไม้ที่มีใบหนาแข็ง มีขน มดแดงไม่ชอบ เพราะเปลืองแรงในการดึงใบมาสร้างรัง ระยะแรกมดแดงจะสร้างรังให้ราชินีก่อน ใช้เป็นห้องคลอดไข่ รังเลยไม่ต้องใหญ่…จากนั้นมดงานจะแยกย้ายกันไปสร้างรังสำหรับอนุบาลไข่และตัวอ่อน

รังใหญ่ๆนั่นแหละโรงเลี้ยงไข่ให้เราไปแยงได้…ราชินีตัวเดียว สามารถสร้างอาณาจักรครอบคลุมต้นไม้ 1–50 ต้น มีรังเลี้ยงตัวอ่อนได้เป็น 100 รัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของราชินี และอาหารที่เราใช้เลี้ยงอาณาจักรมดแดง

เพื่อให้ราชินีออกไข่ได้มาก จึงต้องให้อาหารที่มีโปรตีนสูง บรรดาเศษเนื้อทั้งหลายนี่แหละ นำมาวางไว้ตามต้นไม้ กิ่งไม้ที่มดแดงเดินผ่าน อาหารหมดเมื่อไร ทยอยเติม และอย่าลืมติดแขวนน้ำให้ด้วย…ทุกสัปดาห์ ให้น้ำหวานหรือน้ำเชื่อมเป็นอาหารให้มดงานจะได้มีแรงหาอาหารไปเลี้ยงราชินี ตัวอ่อน และสร้างรังเพิ่มให้เราได้แยงไข่

อาหารเลี้ยงมดแดง

ฤดูที่เหมาะแก่การแยงไข่มากที่สุดคือ ก.พ.–พ.ค. เป็นช่วงที่ราชินีจะผลิตไข่แม่เป้ง ที่ขายได้ กก.ละ 30-50 บาท…ส่วน ต.ค.-ธ.ค. เป็นช่วงราชินีออกไข่มดงาน รสชาติไม่ค่อยดี ได้ราคาแค่ กก.ละ 10 บาท

แต่งานวิจัยเลี้ยงมดแดงไม่ได้จบเพียงแค่นี้ ก้าวต่อไป รศ.เดชา เดินหน้าวิจัยทำฟาร์มเลี้ยงไข่มดแดงแบบโรงเรือน ไม่ต้องพึ่งธรรมชาติ…อย่างที่บอกไว้ ตลาดไข่มดแดงมีอนาคต.

ชาติชาย ศิริพัฒน์

ราชินีมดแดง

“น้ำไม่มี ให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย แล้วจะเอาน้ำที่ไหนมารดให้โต” เสียงค่อนแคะของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง…แต่น้ำไม่มี ใช่จะทำกินไม่ได้เอาซะเลย

“ไข่มดแดงช่วยชาติ” เป็นหนึ่งในผลงานวิจัยเกี่ยวกับภัยแล้งที่จะถูกนำมาแสดงในงาน “งานเกษตรแฟร์ 2559 เกษตรศาสตร์นำไทย สู้ภัยแล้ง” ระหว่าง 29 ม.ค.-6 ก.พ.นี้ …เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกร เพราะไร้ต้นทุน พึ่งพาน้ำแค่จิ๊ดเดียว

“การหาไข่มดแดง เลี้ยงมดแดงทั่วๆไปได้ผลผลิตน้อย ต้นต้นหนึ่งได้ไข่แค่ 10 กรัม และต่อให้ต้นไม้มีรังเยอะ อย่างเก่งได้ไข่ไม่เกิน 2-3 ขีด เราเลยมาวิจัยจะทำยังไงถึงจะได้ไข่ต้นละ 2-3 กก. เพราะวันนี้ไข่มดแดงไม่ได้เป็นที่ต้องการเฉพาะในบ้านเรา อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น มีความต้องการมาก แต่เราไม่สามารถผลิตให้ได้เท่านั้น นอกจากจะนำไปทำเป็นอาหาร ยังสามารถทำครีมทาผิวให้ขาวได้ด้วย”

รศ.เดชา เกาะต้นไม้หารังราชินี

รศ.ดร.เดชา วิวัฒน์วิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า วันนี้การวิจัยเรื่องมดแดงได้ก้าวข้ามการเลี้ยงเพื่อให้ได้ไข่มากขึ้นไปแล้ว…ถึงขั้นสามารถทำให้เกษตรกรมีที่ดิน มีต้นไม้ แต่ไม่มีมดแดง สามารถเลี้ยงมดแดงได้

“มดแดงเหมือนผึ้งและปลวก ราชินีอยู่ที่ไหน มดแดงจะอยู่ที่นั่น จะเลี้ยงมดแดง เกษตรกรต้องหาตัวราชินีให้เจอก่อน เพราะถ้าจะไปตัดรังมาวางโดยไม่มีราชินีติดมาด้วย มดแดงจะไม่อยู่กับเรา”

เกาะกลุ่มปกป้องราชินี

การหาราชินี รศ.เดชา บอกว่า รังมดแดงที่เราเห็นไม่ได้มีราชินีไปทุกรัง รังของราชินีจะไม่ใหญ่ ขนาดแค่กำปั้นมือ จะรู้ให้แน่ชัดต้องใช้วิธีเคาะต้นไม้แล้วสังเกต รังไหนถ้ามีมดแดงวิ่งกรูกันออกมา รังนั้นไม่ใช่…แต่ถ้ารังไหนมีมดแดงรวมจับตัวกันเป็นก้อน เหมือนปกป้องบางสิ่งบางอย่าง…รังนั้นมีราชินี

ตัดกิ่งรังมาใส่ถุง เอามดแดง มดงานติดมาด้วยเยอะๆยิ่งดี เพราะราชินีจะได้มีกำลังพลมาช่วยสร้างอาณาจักรใหม่ได้เร็ว…เอามาแขวน มาวางตรงโคนต้นไม้ที่เราใช้เป็นที่เลี้ยงมดแดงนั่นแหละ

ต้นไม้ที่เหมาะจะเลี้ยงต้องมีใบอ่อน อย่างมะม่วงหรือชมพู่ ต้นไม้ที่มีใบหนาแข็ง มีขน มดแดงไม่ชอบ เพราะเปลืองแรงในการดึงใบมาสร้างรัง ระยะแรกมดแดงจะสร้างรังให้ราชินีก่อน ใช้เป็นห้องคลอดไข่ รังเลยไม่ต้องใหญ่…จากนั้นมดงานจะแยกย้ายกันไปสร้างรังสำหรับอนุบาลไข่และตัวอ่อน

รังใหญ่ๆนั่นแหละโรงเลี้ยงไข่ให้เราไปแยงได้…ราชินีตัวเดียว สามารถสร้างอาณาจักรครอบคลุมต้นไม้ 1–50 ต้น มีรังเลี้ยงตัวอ่อนได้เป็น 100 รัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของราชินี และอาหารที่เราใช้เลี้ยงอาณาจักรมดแดง

เพื่อให้ราชินีออกไข่ได้มาก จึงต้องให้อาหารที่มีโปรตีนสูง บรรดาเศษเนื้อทั้งหลายนี่แหละ นำมาวางไว้ตามต้นไม้ กิ่งไม้ที่มดแดงเดินผ่าน อาหารหมดเมื่อไร ทยอยเติม และอย่าลืมติดแขวนน้ำให้ด้วย…ทุกสัปดาห์ ให้น้ำหวานหรือน้ำเชื่อมเป็นอาหารให้มดงานจะได้มีแรงหาอาหารไปเลี้ยงราชินี ตัวอ่อน และสร้างรังเพิ่มให้เราได้แยงไข่

อาหารเลี้ยงมดแดง

ฤดูที่เหมาะแก่การแยงไข่มากที่สุดคือ ก.พ.–พ.ค. เป็นช่วงที่ราชินีจะผลิตไข่แม่เป้ง ที่ขายได้ กก.ละ 30-50 บาท…ส่วน ต.ค.-ธ.ค. เป็นช่วงราชินีออกไข่มดงาน รสชาติไม่ค่อยดี ได้ราคาแค่ กก.ละ 10 บาท

แต่งานวิจัยเลี้ยงมดแดงไม่ได้จบเพียงแค่นี้ ก้าวต่อไป รศ.เดชา เดินหน้าวิจัยทำฟาร์มเลี้ยงไข่มดแดงแบบโรงเรือน ไม่ต้องพึ่งธรรมชาติ…อย่างที่บอกไว้ ตลาดไข่มดแดงมีอนาคต.

ชาติชาย ศิริพัฒน์

Leave a comment