ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/587598
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 9 มี.ค. 2559 05:01

อิสราเอลว่าแล้งยังปลูกพืชได้สารพัด นับประสาอะไรกับ “ทุ่งกุลาร้องไห้” ที่ชาวบ้านเชื่อมานาน ถึงหน้าแล้งปลูกอะไรไม่ได้เลย…นับแต่นี้ไปอาจต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ “ทุ่งกุลายิ้มได้”!!!
เมื่อ พระครูวินัยธรธีระพงษ์ ธีรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าทุ่งกุลาเฉลิมราช บ.โพนตูม ต.ทุ่งทอง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด พระนักพัฒนา ได้เปลี่ยนแนวคิดเดิมๆของชาวบ้าน ด้วยการพลิกแผ่นดินแห้งแตกระแหง ให้กลายเป็นแผ่นดินเขียวชอุ่มไปด้วยผักบุ้ง….ผักปลูกง่าย ให้ผลผลิตเร็วๆ รวมทั้งผักสวนครัวอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงทดลอง
ด้วยความเป็นพระหนุ่มหัวทันสมัย ดีกรีปริญญาตรีด้านคอมพิวเตอร์ มีเจตนาจะลบความเชื่อเก่าและเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้าน หลังเกี่ยวข้าวจะได้ไม่ต้องอพยพไปหางานทำในเมืองใหญ่
อันดับแรกคิดปรับปรุงพัฒนาดินที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าปลูกอะไรไม่ได้ให้ปลูกอะไรๆก็ได้…ส่วน “น้ำ” อีกปัจจัยการผลิตที่สำคัญ ไม่ต้องพูดถึง น้ำมีเหลือเฟือ เพราะทางวัดได้ขุดสระขนาดใหญ่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
เริ่มหา ความรู้ทางอินเตอร์เน็ต ระดมพระเณรช่วยกันพลิกฟื้นดินทุ่งกุลาฯ พร้อมส่งดินไปตรวจยังกรมพัฒนาที่ดิน และกรมวิชาการเกษตร ได้คำตอบ คุณภาพดินอยู่ในสภาพขาดธาตุอาหารไปทุกสิ่ง เลยต้องนำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก มาปรับหน้าดินใหม่
จากนั้นให้พระเณรลงมือปลูกผักบุ้งจีนให้ชาวบ้านได้เห็นเป็นตัวอย่าง…อะไรที่ว่าปลูกไม่ได้ ปลูกได้เห็นๆ จนเป็นที่โจษขานของชาวบ้าน พร้อมกับความคิดที่เริ่มรู้จักเปลี่ยน…แต่ปัญหาคือ ชาวบ้านอยากทำ แต่ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง เช่าทำเฉพาะช่วงหน้านา
ทางวัดจึงต้องเอาที่ดินวัด 13 ไร่ มาจัดสรรให้ชาวบ้าน 30 ครัวเรือน ปลูกผักบุ้งขาย ส่วนเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ใช้บริการกรมวิชาการเกษตร ส่วนเรื่องตลาดเจ้าอาวาสสนองแนวคิดประชารัฐ ประสานขายส่งเทสโก้ โลตัส ด้วยเป็นผักบุ้งอินทรีย์ จึงไม่มีปัญหา ให้ราคา กก.ละ 14 บาท
ปลูกผักบุ้ง 20-25 วัน พักดิน 7 วัน บนที่ดินเฉลี่ยรายละงานครึ่ง…หักต้นทุนแล้ว ชาวบ้านได้กำไรเดือนละ 5,000 บาท แถมยังปลูกทำเงินได้ทั้งปี ปีละ 60,000 บาท
ปลูกข้าวทั้งปี ปีละ 2 ครั้ง ใช้พื้นที่ 1 ไร่ มากกว่าปลูกผักบุ้งเท่าตัว จะได้กำไรเท่านี้ไหมหนอ.
สะ–เล–เต