ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/606416
โดย ทีมข่าวการเมือง 17 เม.ย. 2559 05:01

มหาสงกรานต์ผ่านพ้นไปอีกปี
ในบรรยากาศของความสุข สนุกสนานรื่นเริง ที่เคล้าไปกับความปั่นป่วนวุ่นวาย
ไล่ตั้งแต่ปัญหาโลกแตกแก้ไม่ได้ เรื่องการแต่งตัวโป๊เล่นน้ำ การเมาแล้วขับ อุบัติเหตุบนท้องถนน เจ็บตายมากเป็นสถิติโลกที่ยังเหมือนเดิม
เพิ่มเติมเข้ามาคือวิกฤติภัยแล้งขั้นสาหัสและสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย
ขณะที่บรรยากาศทางการเมืองก็พ่นน้ำลายแข่งกับการสาดน้ำสงกรานต์
ตามสถานการณ์ “ประชามติ” ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่กำลังเป็นประเด็นร้อน เชื้อชนวนให้เกิดการปะทะคารม สะท้อนปมขัดแย้งทางความคิดระหว่างฝ่ายที่เอาด้วยกับพวกที่ไม่เห็นด้วย
แบบที่เบิ้ลบลัฟกันแรงๆออกอากาศ
บรรยากาศร้อนต่อเนื่องมาตั้งแต่งานรดน้ำสงกรานต์ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. แสดงอาการหงุดหงิดนักการเมืองทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย
ที่รุมวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย”
และยังส่อเค้าไม่เอาด้วยกับคำถามพ่วงประชามติ กรณีให้ “ส.ว.สรรหา” ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วงสถานการณ์เปลี่ยนผ่าน 5 ปี
ในอารมณ์แบบที่หัวหน้า คสช.พาลฟ้อง “ป๋าเปรม” เป็นเชิงเหน็บสื่อมวลชนให้ช่วยกลับไปถามนักการเมืองทั้งหลายบ้างว่า ที่ผ่านมาได้ทำอะไร และเลือกตั้งแล้วจะทำอะไรให้บ้านเมือง
ไม่ใช่ถามแต่ว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติแล้ว คสช.จะทำอย่างไร
และที่เป็นไฮไลต์ หนังสือพิมพ์หยิบเอามาพาดหัวไม้ พล.อ.ประยุทธ์พูดเป็นเชิงท้ากลับนักการเมือง 2 พรรคใหญ่ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ถ้าจะแตะมือกันบอยคอตเลือกตั้งเพราะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
แน่จริงขอให้ทำตามที่พูด พรรคอื่นจะได้ลงแทน
และก็มาโทนเดียวกันเลย ตามจังหวะรับลูกตามน้ำ “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.เลขาธิการ คสช. ก็ออกมาสำทับเป็นเชิงปรามกรณีพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ แถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่รับ และไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย” และไม่เอาด้วยกับคำถามพ่วงประชามติ
แบบนี้เป็นการไม่ให้เกียรติประชาชน
ชักน้ำเสียงเข้มๆขู่กลุ่มการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหว อย่าพูดมากทำให้เกิดความเข้าใจผิดในการทำประชามติ เพราะ คสช.มีหลักสูตรการฝึกอบรมผู้นำการสร้างชาติ ถ้าอยากก็เอา
คนที่อยาก “ลองของ” เดี๋ยวได้เจอแน่
จากเบอร์หนึ่ง คสช. ถึงจ่าฝูงกองทัพบก “ท็อปบูต” ยกระดับสัญญาณคลื่นความถี่สูง พร้อมจัด “ยาแรง” ให้พวกที่เคลื่อนไหวก่อแรงกระเพื่อมในการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
ตามจังหวะโซ้ยกลับ “นักเลือกตั้งอาชีพ” ที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นที่มันปาก
โดยเฉพาะกับฉากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมแถลงจุดยืน ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย” และรับไม่ได้กับคำถามพ่วงประชามติ
และยังจี้ให้ คสช.ตอบให้ชัด ถ้าร่างรัฐธรรมนูญโดนคว่ำจะทำอย่างไร
ในอารมณ์ล้อไปกับอาการออกตัวแรงๆของนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศชัดจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และยังฟันธงด้วยว่า คำถามพ่วงประชามติจะทำให้คนหมั่นไส้ พาลให้มีการคว่ำประชามติ
ประชาธิปัตย์ดาหน้าถล่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย” แบบไม่เกรงใจคนกันเอง
นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่แสดงจุดยืน ร่อนแถลงการณ์คว่ำประชามติตั้งแต่วันที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แถลงโชว์ร่างฉบับสมบูรณ์
ได้แนวร่วมต่างขั้วอย่างพรรคประชาธิปัตย์ผสมโรง มันก็ยิ่งเข้าทางไปกันใหญ่
ตามเหลี่ยมแบบที่ “ขาประจำ” อย่างนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีคนดัง เปิดปฏิบัติการยั่วด้วยการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ไม่สบายใจกับท่าทีของนายกรัฐมนตรีที่แสดงอารมณ์หงุดหงิด กรณีพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญและขอให้ คสช.เปิดเผยแนวทางหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ สอดรับกับท่าทีของ ผบ.ทบ.ที่แสดงการข่มขู่กลุ่มการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหว
ทั้งๆที่โพลรัฐบาลได้รับคะแนนนิยมสูงถึงร้อยละ 99.5 ยังจะกลัวอะไรอีก
อำ บลัฟ ถากถาง นักเลือกตั้งเปิดศึกสงครามน้ำลายกับบิ๊ก คสช.ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
แน่นอน ประเมินตามรูปการณ์ นักการเมือง 2 ค่ายใหญ่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ที่กุมฐานคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งแท็กทีมขวางร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย
สัญญาณอันตรายแบบนี้ก็น่าเป็นห่วงประชามติ
แต่ก็อีกนั่นแหละ เท่าที่หยั่งท่าที คสช.ก็เหมือนไม่ได้ยี่หระกับเกมเขย่าประชามติของนักเลือกตั้งสักเท่าไหร่ ในอาการแบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“มีประชาชนอยู่กับผมพอสมควร คนกลางจะเชื่อเขาหรือเชื่อผม”
แปลความได้ว่า “ต้นทุนหน้าตัก” ยังสูงกว่าพร้อมเปิดเกมเดิมพัน
เหมือน พล.อ.ประยุทธ์จะประเมินอารมณ์สังคมแล้ว แม้จะอึดอัดกับทหาร แต่กลัวม็อบกลับมาป่วนเมืองมากกว่า สุดท้ายประชาชนคนไทยต้องเลือกเสี่ยงเดินตามธงของ คสช.
ทหารยังถือแต้มต่อนักการเมือง
นั่นก็ทำให้ยุทธการให้ “ยาแรง” ยังเดินหน้าต่อในระดับเข้มข้น โดยไม่สนทั้งพรรคเพื่อไทยหรือยี่ห้อประชาธิปัตย์ โชว์ให้เห็น “ไม้แข็ง” กันชัดๆ แบบที่นายวัฒนาโดนทหารไล่ตามล็อกตัวเข้าค่าย ผลจากการโพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์ทหาร แบบหมูไม่กลัวปังตอ
ในเมื่อกล้าท้าทาย ก็กล้าทุบ
และก็สังเกตได้กับท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ลดโทนลงแบบวูบวาบ หลังน้ำเสียงเขียวๆของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ธีรชัยตวาดใส่นักการเมืองปากดี
ตามลีลาที่นายอภิสิทธิ์รีบปัดไม่เคยพูดเรื่องไม่ลงเลือกตั้ง เพราะไม่พอใจร่างรัฐธรรมนูญแต่อย่างใดพร้อมหยอดลูกอ้อน เชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจดีต่อบ้านเมือง แต่ขอให้แยกแยะอย่ามองคนเห็นต่างเป็นปฏิปักษ์ไปหมด ทั้งๆที่ “บิ๊กตู่” น่าจะรู้นิสัยใจคอกันดี เพราะเคยทำงานร่วมกันมา
แสดงตัวแสดงตนเลยว่า เป็นพวกเดียวกัน
ที่สำคัญ นายอภิสิทธิ์ยืนยันเสียงแข็งเลยว่า ไม่มีการซูเอี๋ยกับพรรคเพื่อไทยคว่ำร่างรัฐธรรมนูญแน่
เอาเข้าจริงมันก็แค่ลีลา ประชาธิปัตย์เล่นไปตามบทค่ายการเมืองเก่าแก่ ที่จำเป็นต้องกระโดดโหนขบวนประชาธิปไตย
โชว์จุดยืนหรู ยึดหลักการไว้ก่อนตามฟอร์ม
ซึ่งนั่นก็ถือว่า ซับซ้อนกว่าพรรคเพื่อไทยที่แสดงจุดยืนตรงข้ามกับทหาร เล่นบทเป็นฝ่ายประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการมาตลอดอยู่แล้ว
การประกาศคว่ำประชามติ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญถือเป็นเกมปกติ
และมีกระแสข่าววงในว่าอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร นัดให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนญี่ปุ่นหลังสงกรานต์นี้ ในประเด็นหนีไม่พ้นวิพากษ์ร่างรัฐธรรมนูญ
โดยเหลี่ยมเซียนการตลาดต้องเลี้ยงกระแสกองเชียร์ไว้ก่อน
“นายใหญ่” ก็เล่นไปตามบทเร้าเกมคว่ำประชามติ แต่ลึกๆเช็กอาการลูกข่ายพรรคเพื่อไทย หยั่งท่าทีอดีต ส.ส.ส่วนใหญ่ร้อยทั้งร้อยพูดเป็นเสียงเดียวกัน อยากลงสนามเลือกตั้งเต็มแก่
ทนอดอยากปากแห้งไม่ไหวแล้ว
ทั้งหมดทั้งปวงตามแนวโน้มสถานการณ์ของนักเลือกตั้งอาชีพ ก็สะท้อนได้จากอาการของมวยรุ่นเก๋าอย่างนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่แบะท่าชัดๆในวันรดน้ำสงกรานต์ ฟันธงร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย” ส่วนใหญ่มีข้อดี ส่วนที่มีความเห็นว่ายังมีข้อขัดแย้งนั้น ก็พอรับได้
โดยส่วนตัวจะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะได้มีการเลือกตั้งในปี 2560
“ผมอยากให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 ตามที่นายกฯพูดมา เลือกตั้งไปเถอะ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป มันอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคตก็ได้ ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เสียเลยปัญหาก็อาจจะเกิดขึ้น เดี๋ยวก็ไปร่างขึ้นมาใหม่ถ้าแย่ยิ่งกว่าเดิมก็ยิ่งจะไปกันใหญ่เลยทีนี้ แล้วปี 2560 ก็ไม่มีการเลือกตั้ง ถ้าต้องยืดไปอีกกว่านี้คงไม่ไหวแล้ว”
รุ่นใหญ่ชูธงนำร่องเองแบบไม่กั๊ก
ตามปรากฏการณ์จากพรรคเพื่อไทยต้องเล่นตามฟอร์มฝ่ายต้านเผด็จการทหาร เลี้ยงกระแสกองเชียร์ พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องกระโดดโหนขบวนประชาธิปไตย โชว์หลักการของค่ายเก่าแก่ มาถึงคิวของ “บรรหาร” ที่แบะท่ากันแบบไม่กั๊ก ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญเพื่อแลกกับการเลือกตั้ง
จับอาการปากอย่างใจอย่างของนักเลือกตั้งอาชีพ
มันก็แค่ลีลาของ “ลิเกประชาธิปไตย”
ไม่เอาด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ชอบคำถามพ่วงประชามติ แต่มุ่งไปที่สนามเลือกตั้ง
นี่แหละ ทหารถึงได้จับทางถูก เลยไม่กลัวแรงกระเพื่อมประชามติ
และนั่นก็ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าสถานการณ์จากนี้ไป คสช.ต้องลุยไล่บี้พวกปากดี จัด “ของแข็ง” ให้พวกวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงสถานการณ์ตามบล็อกไม่ให้มีการแจกของชาวบ้าน แบบที่ไล่จับ “ขันแดง” ของพรรคเพื่อไทย และไล่ยึด “กล่องยา” ของพรรคประชาธิปัตย์
นั่นก็เพราะต้องควบคุมปัจจัยตัวแปรที่มีผลต่อการตัดสินใจของชาวบ้าน
เป็นยุทธศาสตร์ประคองสถานการณ์เข้าสู่การลงคะแนนประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคม
ผลโหวตรับ-ไม่รับ
ต้องมาจากความต้องการที่แท้จริงของประชาชน.
ทีมการเมือง