ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/605131
โดย ทีมข่าวการเมือง 13 เม.ย. 2559 05:01

ไม่ฮือฮาเป็นข่าวใหญ่เหมือน “ขันแดง” ของพรรคเพื่อไทย
แต่โดยสถานการณ์โดนจ่าย “ยาแรง” ไม่น้อยหน้ากัน กับปรากฏการณ์ที่เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 4 ได้ทำการตรวจยึด “กล่องยา” ที่ติดสติกเกอร์รูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และข้อความ “ด้วยรักและห่วงใย”
เบรกสกัดไม่ให้แจกในเทศกาลสงกรานต์
พร้อมเชิญตัวอดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคประชาธิปัตย์ มาสอบถามเพื่อทำการปรับทัศนคติ ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง
สุดท้ายนายอภิสิทธิ์ต้องสั่งให้ลูกพรรคยุติการแจกจ่ายดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
โดนเหมือนกันไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย มาตรฐานเดียวไม่มีการเลือกปฏิบัติ
คสช.จัด “ยาแรง” ไม่มีประนีประนอมกับนักการเมืองไม่ว่าหน้าไหน
ตามอาการ “หมั่นไส้” ที่แปรสัญญาณจากคลื่นความถี่สูงตรงกัน
ล่าสุดเป็นคิวของ “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. ที่ออกมาส่งสัญญาณฮึ่มๆถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย แถลงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย” และส่อไม่รับคำถามพ่วงประชามติให้ “ส.ว.สรรหา” ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
แบบนี้เป็นการไม่ให้เกียรติประชาชน
พรรคการเมืองก็คือพรรคการเมือง ต้องให้เกียรติประชาชนว่าจะตัดสินอย่างไร
ชักน้ำเสียงเข้มๆ ปรามกลุ่มการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวขอให้อย่าพูดมาก เพราะ คสช.มีหลักสูตรการฝึกอบรมผู้นำการสร้างชาติ ถ้าอยากก็เอา และไม่จำเป็นต้องรอช่วงหลังสงกรานต์ จะเป็นช่วงไหนก็ได้ถ้าพูดไม่ดี คนที่อยากลองของเดี๋ยวได้แน่
จ่าฝูงกองทัพบกกระโดดเข้าฉากบู๊ ร่วมซีนดุดันกับนักการเมือง
ในอารมณ์ต่อเนื่อง ตามท้องเรื่องเดียวกับที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. โซ้ยกลับพวกนักการเมือง “ปากดี” ที่วิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านคำถามพ่วงประชามติให้ “ส.ว.ลากตั้ง” โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้
ท้าออกอากาศ ถ้าแน่จริงไม่ต้องลงเลือกตั้งหากไม่พอใจร่างรัฐธรรมนูญ
ขณะที่อีกด้าน “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ปกติจะสงวนท่าทีเกี่ยวกับปมการเมือง ก็ยังพูดถึงกรณี 2 พรรคการเมืองใหญ่ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ออกแถลงการณ์ไปในแนวเดียวกันคือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย”
ถ้าเข้าขั้นปลุกปั่น ยุยงส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวายก็ไม่ควร
และที่พลาดไม่ได้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ระบุกรณีนักการเมืองหลายพรรคแสดงท่าทีไม่รับร่างรัฐธรรมนูญถือเป็นสิทธิ
แต่ให้ระวังการสื่อสารกับสังคมที่อาจเข้าข่ายการชี้นำด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ
“ท็อปบูต” แปรรูปขบวนเข้าชนนักเลือกตั้งอาชีพ
ยกระดับสัญญาณพร้อม “หักดิบ” เร้าบรรยากาศ “วัดดวง” ในห้วงสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย”
ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ประชาชนคนกลางๆเลือกถือหาง คสช.มากกว่า
คนเบื่อทหารแต่แหยงม็อบกลับมาอาละวาด
ที่ลึกไปกว่านั้น จับอาการ สะท้อนยุทธศาสตร์ มันก็ค่อนข้างชัด ธงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเดิมพันร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านด่านประชามติหรือไม่
สำคัญกว่าอะไร ทหารต้องการ “เคลียร์” นักการเมืองพันธุ์เก่า
เอาเป็นว่า แกะรอยกันให้ดี กับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันชัดเจน คสช.ยังห้ามนักการเมืองตั้งโต๊ะแถลงข่าว พร้อมเตือนเป็นนัย กฎหมายเขียนไว้ถ้าทำให้ประชามติเสียหายก็ต้องโทษจำคุก 10 ปี ไม่โดนวันนี้ก็โดนวันหน้า
เผลอๆปมป่วนประชามตินี่แหละจะเป็นเชื้อชนวนอันตราย
ตามยุทธศาสตร์ “ล้างกระดาน” พรรคการเมือง ปล่อยให้ลงสมัครเลือกตั้งโดยไม่สังกัดค่าย
“ไม้ตาย” มันอยู่ที่คิว “ยุบพรรค”
ทีมข่าวการเมือง