ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/602221
โดย ทีมข่าวการเมือง 7 เม.ย. 2559 05:01

กระเทียม “ไล่ผี” ที่ชอบหนีไปอยู่เมืองฝรั่ง
กับมุกล้ำลึกของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ที่ได้จังหวะใช้ฉากงานอีเวนต์ในทำเนียบรัฐบาลก่อนประชุม ครม.เป็นเวทีโชว์ของสบช่อง “บลัฟ” คนแดนไกลอย่าง “จงใจ” เบิ้ลคืน
แต่ในอารมณ์เจือมุกตลกผ่อนคลาย ก็ถือเป็นการปรับโทนลดบรรยากาศเครียดๆลง ในห้วงสถานการณ์ร้อนๆหลังรัฐบาลทหาร คสช.สั่งไล่จับ “ขันแดง” ที่มีรูปกับลายเซ็นของ 2 พี่น้อง อดีตนายกฯทักษิณและอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะขัดกฎหมายความมั่นคง
กลายเป็นข่าวแปลกโด่งดังไปทั่วโลก
ตามท้องเรื่องที่สะท้อนผ่านภาพการ์ตูนล้อการเมืองที่ “รถถัง” วิ่งหนี “ขันแดง” เป็นบทสรุปอารมณ์ของสังคมทั้งในและต่างประเทศที่มองปรากฏการณ์เรื่องไม่เป็นเรื่องดันทำให้เป็นเรื่อง
ตอกย้ำภาพรัฐบาลทหารให้ติดลบตามฟอร์ม
และไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วก็ยังออกแนวเดิม สงกรานต์ ปีใหม่ เทศกาลสำคัญ “ทักษิณ–ยิ่งลักษณ์” ชิงกระตุกเรตติ้งได้ตลอดไม่ว่าจะโดนไล่บี้ ไล่บล็อกยังไงก็เอาไม่อยู่
มันก็ชัดเหลี่ยมเกมชิงกระแส ทหารไม่มีทางสู้โคตรเซียนการตลาดยี่ห้อ “ทักษิณ” ได้
แน่นอน ตามยุทธศาสตร์ของ 2 พี่น้องก็ต้องใช้ความได้เปรียบตรงนี้ในการเดินหมากประคองดุลทางการเมือง แบบที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์เพิ่งฉลองแฟนเพจในเฟซบุ๊กครบ 5 ล้าน เตรียมจัดโปรโมชั่นเดินสายเที่ยวสถานที่สำคัญในต่างจังหวัด จัดกิจกรรมพบปะกองเชียร์เลี้ยงกระแส เป็นกำแพงให้พิงในจังหวะที่คดีปล่อยปละละเลยให้ทุจริตโครงการรับจำนำข้าวงวดเข้ามา
เกมการตลาดชิงมวลชนของยี่ห้อ “ทักษิณ” จะเข้มข้นขึ้นตามลำดับ
ในทางตรงกันข้ามเช่นกัน กับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในการคุมเกมอำนาจ นาทีนี้ก็ไม่มีใครเหนือกว่าพี่น้องทีมบูรพาพยัคฆ์
สะท้อนจากสถานการณ์เดินหน้าพร้อมลุย “หักดิบ”
ตามยุทธศาสตร์การใช้ “ยาแรง” กับเครือข่ายฝ่ายต้าน ไม่ว่าจะเป็นการไล่กวาดล้างผู้มีอิทธิพล การล็อกพวกวิจารณ์ คสช.เข้าค่ายปรับทัศนคติ หรือแม้แต่การไล่จับ “ขันแดง” ของพรรคเพื่อไทย
ทหารเล่นบทดุ ไม่สนว่าจะขัดบรรยากาศประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่
นั่นแสดงว่าท็อปบูตมั่นใจว่าเอาอยู่
อย่างที่รู้ ประชามติจะผ่านหรือไม่ผ่าน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย” จะพลิกคว่ำพลิกหงาย ไม่ได้ส่งผลในระดับเป็นหรือตายกับรัฐบาลทหาร คสช.
เพราะมีแผนหนึ่ง แผนสอง แผนสาม รออยู่แล้ว
แนวโน้มสถานการณ์ก็ต้องโฟกัสตาม “พิมพ์เขียว” ที่ คสช.และแม่น้ำ 4 สายส่งให้ “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ทีมงาน “21 อรหันต์ทองคำ” ออกแบบบทเฉพาะกาล
โดยใช้อำนาจผ่าน “ส.ว.ลากตั้ง” คุมเกมให้อยู่ในเส้นทางปฏิรูปประเทศไทยตามเป้าหมาย
แต่จะคุมเข้มอยู่ในระดับใดก็ต้องติดตามตอนต่อไป
แน่นอนตอนนี้อำนาจในการจิ้มชื่อ 250 ส.ว.อยู่ในมือ คสช.แล้ว ก็เหลือแค่โบนัสกับการที่ สปท.และ สนช.ปูทางให้ ส.ว.โหวตเลือก นายกรัฐมนตรีได้ รวมถึงการโหวตซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แต่ทั้งหมดทั้งปวง ไม่ว่าอำนาจในการคุมเกมการเมืองจะอยู่ในระดับไหน
เงื่อนไขสำคัญจริงๆมันอยู่ที่การคุมเกมในกองทัพ
ว่ากันตามเกณฑ์แต่งตั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ยึดหลักตามเส้นทางการเติบโตและอาวุโส ไม่ว่ากระแสจะวุ่นวาย โผพลิกไปพลิกมา แต่สุดท้ายก็ออกมาที่ “ตัวเต็ง” ตามเส้นทางที่วางไลน์กันไว้
สายบูรพาพยัคฆ์ยังต่อแถวคุม ทบ.อีกยาว
เหนืออื่นใด โดยสถานะ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะพี่ใหญ่ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่รอง และ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะน้องเล็ก ที่คบกันมาตั้งแต่ยศร้อยตรี คลุกคลีตีโมงกันมา 40 กว่าปี
มีการยืนยันจากปากของคนสำคัญ “พี่น้อง 3 ป. ไม่มีวันแตกแยกกันเด็ดขาด”
นี่ต่างหากหลักประกันอำนาจที่ชัวร์สุดของทีมงาน คสช.
ทีมข่าวการเมือง