ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/210381
หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557ใหม่ๆ มหาชนต่างศรัทธาให้การสนับสนุนคสช.ด้วยความหวังเต็มเปี่ยมว่าจะเข้ามากอบกู้ภาวะรัฐล้มเหลวของประเทศที่บอบช้ำมานานกว่า 10 ปี ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติและขจัดสิ่งชั่วร้ายในอดีตอันเป็นต้นตอของวิกฤติชาติ รวมทั้งเดินหน้าปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงอย่างยั่งยืน แต่ดูเหมือนว่าผลงานการปฏิรูปประเทศจะยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันทั้งๆ ที่คสช.เข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศนาน 2 ปีแล้ว
นับวันผู้ที่เคยสนับสนุนหรือเป็นแนวร่วมของคสช.เริ่มจะอึดอัดและลดลงเรื่อยๆ โดยล่าสุด นายธีรยุทธบุญมี นักวิชาการชื่อดัง ชี้ว่า 2 ปีที่ผ่านมาคสช.ซึ่งมีอำนาจอยู่ในมือควรจะมีผลงานปฏิรูปประเทศให้เห็น อาทิ การปฏิรูปความเหลื่อมล้ำ การปฏิรูปตำรวจ การปฏิรูปการศึกษา แต่กลับยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยที่คสช.จะขอใช้กลไกประชาธิปไตยครึ่งใบอยู่ต่ออีก 5 ปีหลังเลือกตั้งเพื่อปฏิรูปประเทศ เพราะขนาดมีอำนาจอยู่ในมือยังไม่ทำ แล้วจะไปหวังอะไรเมื่อมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นเชื่อว่าแนวโน้มการปฏิรูปประเทศคงล้มเหลว
อย่างไรก็ตามยังไม่สายเกินไปหากคสช.จะเริ่มต้นปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังตั้งแต่บัดนี้โดยไม่ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้นักวิชาการและตัวแทนองค์กรภาคประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เป็นแนวร่วมของคสช. อาทิ นายสุริยะใส กตะศิลา มีความเห็นเช่นกันว่า ที่ผ่านมาคสช.แทบจะไม่มีผลงานการปฏิรูปประเทศและแม้จะกำหนดในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้มีการปฏิรูปประเทศตามกรอบเวลาที่กำหนด แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะสำเร็จ เพราะขณะนี้คสช.มีอำนาจอยู่ในมือแท้ๆ ก็ยังไม่ปฏิรูปอะไรได้สำเร็จเป็นเรื่องเป็นราว เพราะฉะนั้นหากจะเรียกศรัทธามหาชนเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติ คสช.ควรจะปฏิรูปให้เห็นผลงานก่อนทำประชามติ ซึ่งเชื่อว่าจะได้ใจจากประชาชนจำนวนมาก
การปฏิรูปประเทศนั้นบางเรื่องอาจต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลซึ่งเข้าใจได้ อาทิ การลดความเหลื่อมล้ำ แต่บางเรื่องซึ่งมีความสำคัญและสามารถปฏิรูปได้ทันที อาทิ การขุดรากถอนโคนขบวนการเพื่อแม้วที่พยายามบ่อนทำลายและเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งการปฏิรูปตำรวจสามารถดำเนินการได้ทันทีก่อนการเลือกตั้งและควรทำมานานแล้วด้วยซ้ำ
แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาขบวนการเพื่อแม้วยังยั่วยุท้าทายและบ่อนทำลายอำนาจรัฏฐาธิปัตย์เหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกที่ยังลอยนวลเดินสายทำลายภาพพจน์ของไทยในเวทีโลกอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็พยายามปลุกปั่นสาวกเสื้อแดงในประเทศให้พร้อมลุกฮือป่วนประเทศ ทั้งๆ ที่ควรนำตัวมาลงโทษเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ขณะที่การปฏิรูปตำรวจซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญต่อความมั่นคงของชาติและทุกข์สุขของประชาชนยังมองไม่เห็นอนาคตด้วยซ้ำก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและหัวหน้าคสช. ส่งสัญญาณชัดเจนว่า การปฏิรูปตำรวจจะไม่ทำในยุคคสช. แต่จะรอให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งดำเนินการ
เพราะฉะนั้นยังไม่สายหากคสช.จะหันมาฟื้นศรัทธามหาชนด้วยการปฏิรูปให้เห็นผลนับจากนี้โดยเริ่มจากเรื่องการขุดรากถอนโคนขบวนการเพื่อแม้วและปฏิรูปตำรวจซึ่งเชื่อว่าจะได้ใจมหาชนจนกลายเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้กับคสช.และทำให้การเดินหน้าประเทศเป็นไปด้วยความราบรื่น
ทีมข่าวการเมือง