ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/209784
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงพ่วงบทเฉพาะกาลที่กำหนดให้มีกลไกประชาธิปไตยครึ่งใบเป็นเวลา 5 ปีช่วงเปลี่ยนผ่านหลังการเลือกตั้งซึ่งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้วและกำลังเข้าสู่กระบวนการขอประชามติจากประชาชนทั่วประเทศในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสต่อต้านจากพรรคการเมืองและกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่ม
สำหรับพรรคเพื่อไทยประกาศจุดยืนท่าทีตั้งแต่ก่อนร่างรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำว่า จะรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นผลพวงจากการรัฐประหาร ทั้งนี้เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยนั้นเชื่อว่าไม่ได้แค่เพียงต้องการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ แต่ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อสุมไฟให้เกิดวิกฤติหวังบ่อนทำลายคสช.และขัดขวางการปฏิรูปประเทศ
ขณะที่พรรคใหญ่อีกพรรคคือพรรคประชาธิปัตย์รวมทั้งพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กต่างๆ ยังสงวนท่าทีไม่แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์มีทั้งสนับสนุนประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการขจัดการทุจริตทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตามก็ไม่เห็นด้วยประเด็นในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญซึ่งส่อเป็นการสืบทอดอำนาจของคสช.โดยเฉพาะที่มาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.)250 คน ที่มาจากการสรรหา รวมทั้งการเปิดช่องให้มีนายกฯจากคนนอก
พรรคประชาธิปัตย์และบรรดาพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กต่างๆหรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยต่างก็อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด แต่หากคิดจะจับมือกันเพื่อรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญก็คงต้องคิดหนัก เพราะสิ่งที่ทุกพรรคหวั่นเกรงก็คือหากร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำอาจเข้าทางของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งคาดว่าวางแผนรับมือไว้แล้วโดยแผนแรกอาจต้องมีการ
เริ่มต้นขบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทำให้การเลือกตั้งต้องยืดออกไปและยิ่งไปกว่านั้นคสช.อาจใช้แผนที่สองโดยนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับสำรองซึ่งเตรียมไว้แล้วซึ่งมีเนื้อหาใช้ยาแรงภายใต้อำนาจพิเศษของคสช.อย่างเข้มข้นกว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกคว่ำออกมาประกาศใช้โดยคสช.อาจจะอยู่ในอำนาจอีกยาวเพื่อปฏิรูปประเทศ
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต ถึงได้ให้ความเห็นว่า ในที่สุดแล้วบรรดานักเลือกตั้งทั้งหลายรวมทั้งพรรคเพื่อไทยพอเอาเข้าจริงก็คงฟรีโหวตหรือปล่อยให้สมาชิกตัดสินใจโดยอิสระว่าจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะในส่วนลึกจริงๆ แล้วนักการเมืองล้วนแต่อยากให้มีการเลือกตั้งเต็มแก่ และที่สำคัญหลายคนกลัวว่าหากคว่ำร่างรัฐธรรมนูญอาจเจอร่างรัฐธรรมนูญฉบับยาแรงกว่าเดิมของคสช.
ถ้าจะว่าไปแล้วร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงแม้จะมีเนื้อหาบางประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์แต่ในภาพรวมก็ถือว่ามีจุดแข็งอยู่มากโดยเฉพาะการใช้ยาแรงมุ่งขจัดธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอันเป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
นายมีชัย กล่าวว่าพอใจกับภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีการรับฟังความคิดเห็นและตอบโจทก์ของประชาชนส่วนใหญ่โดยมุ่งที่จะแก้ปัญหาและทำไห้เกิดประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว ซึ่งเป้าหมายสำคัญนอกจากขจัดการทุจริตทุกรูปแบบแล้วยังมุ่งขจัดความเหลื่อมล้ำและปัญหาของชาติที่สั่งสมมานาน โดยเฉพาะการปฏิรูปด้านการศึกษาและตำรวจ ถึงขนาดบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งต้องปฏิรูปให้เสร็จภายใน 1 ปี
ขณะที่ นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)ด้านการเมืองชี้ว่า จุดแข็งของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็คือปราบนักการเมืองโกง และเห็นด้วยอย่างยิ่งที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติห้ามผู้เคยกระทำผิดต่อหน้าที่ ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือคนที่มีประวัติแม้ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดโดยส่อว่าแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบลงสมัครสส.ตลอดชีวิต
“ต่อไปนี้นักการเมืองต้องมือสะอาดภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ใครมีประวัติไม่ซื่อสัตย์ด่างพร้อยถือเป็นเสนียดไม่ควรให้มาเหยียบบันไดสภา รัฐธรรมนูญห้ามพวกเจ้าพ่อเจ้าแม่ใช้การเมืองฟอกตัวเพราะไม่ควรให้คนชั่วมาออกกฎหมายหรือปกครองคนอื่นเด็ดขาด”
ในท่ามกลางกระแสคัดค้านและสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงในที่สุดปัจจัยชี้ขาดก็คือประชาชนผู้เป็นเสียงสวรรค์ที่จะไปลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค. ขณะที่พรรคการเมืองต่างๆ หากคิดจะรณรงค์ให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญคงต้องคิดหนักเพราะอาจได้ไม่คุ้มเสียเจอยาแรงภายใต้อำนาจพิเศษของคสช.จนย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม
ทีมข่าวการเมือง