จับตาม็อบผ้าเหลืองอุ้มสมเด็จช่วง ตัวชี้ยึดกฎหมายหรือใช้กฎหมู่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/205441

วันเสาร์ ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
เมื่อคณะผู้ตรวจการแผ่นดินชี้ชัดตามคำร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ว่ามติมหาเถรสมาคม (มส.) ที่มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นประธานดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอนของพ.ร.บ.สงฆ์ในการเสนอชื่อสมเด็จช่วงขึ้นเป็นพระสังฆราชองค์ใหม่เพราะอำนาจการเสนอชื่อต้องเริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่พิจารณาแล้วจึงส่งต่อไปยังมส.เพื่อให้เห็นชอบ

ก่อนหน้านี้ มส.ส่องุบงิบแอบประชุมลับแล้วลงมติเสนอชื่อ สมเด็จช่วง เป็นพระสังฆราชอย่างเร่งรีบ พร้อมกับใช้ม็อบพระที่เคยล็อกคอทหารกลุ่มหนึ่งซึ่งมีพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นแกนนำออกมาแสดงพลังที่พุทธมณฑลโดยยื่นคำขาดกดดันให้รัฐบาลนำชื่อ สมเด็จช่วง ที่มส.มีมติให้เป็นพระสังฆราชขึ้นทูลเกล้าฯโดยเร็ว มิฉะนั้นสงฆ์ทั่วประเทศจะออกมาแสดงสังฆามติ

ล่าสุดมีการเพิ่มแรงกดดันด้วยการเดินเกมให้วัดหลายแห่งทั่วประเทศขึ้นป้ายสนับสนุนสมเด็จช่วง เป็นพระสังฆราช ทั้งๆ ที่สมเด็จช่วง มีมลทินมัวหมองทั้งกรณีส่อปกป้อง ธัมมชโย เจ้าสำนักธรรมกาย ผู้เป็นศิษย์ไม่ให้ปาราชิกพ้นความเป็นพระอันเป็นการขัดพระบัญชา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ที่ชี้ชัดตั้งแต่ปี 2542 ว่า ธัมมชโย ปาราชิกพ้นจากความเป็นพระทันทีฐานยักยอกเงินวัดเป็นสมบัติส่วนตัวเกือบ 1,000 ล้าน และเผยแพร่ลัทธิอุบาทว์ที่ขัดต่อพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าอย่างร้ายแรง อีกทั้ง สมเด็จช่วง ยังพันพัวคดีครอบครองรถเบนซ์โบราณหรูซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ตรวจสอบพบว่าเป็นรถผิดกฎหมาย

พุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยวิพากษ์วิจารณ์ว่าด้วยมลทินของสมเด็จช่วงจึงไม่เหมาะที่จะขึ้นเป็นประมุขสงฆ์และยิ่งไม่สมควรอย่างมากที่ผลักภาระโยนเผือกร้อนการเสนอรายชื่อพระเถระผู้ใหญ่ที่มีมลทินขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อแต่งตั้งเป็นพระสังฆราช

ในกรณีรถเบนซ์โบราณผิดกฎหมายซึ่งมีลายเซ็นสมเด็จช่วงเป็นเจ้าของ แม้ทนายความชุดใหม่ของสมเด็จช่วง จะอ้างว่ารถผิดกฎหมายดังกล่าวมีญาติโยมบริจาคให้ และล่าสุด สมเด็จช่วง พร้อมจะคืนให้ผู้บริจาค

แต่ความผิดสำเร็จแล้ว เหมือนโจรเที่ยวจี้ปล้นพอถูกจับได้ก็ขอคืนของกลางที่ปล้นแล้วอ้างว่าขอให้เลิกรากันไป หรือนักการเมืองโกงชาติปล้นแผ่นดินพอถูกดำเนินคดีก็ใช้เล่ห์ศรีธนญชัยยอมคืนเงินที่โกงชาติแล้วอ้างว่าขอให้เจ๊ากันไป ซึ่งกรณีรถเบนซ์โบราณผิดกฎหมาย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พูดในเชิงหลักการของกฎหมายอย่างมีเหตุมีผลว่า ของที่ผิดกฎหมายไม่ว่าผู้ครอบครองจะคืนหรือไม่คืนก็ผิดกฎหมายอยู่วันยังค่ำ

และยิ่งเมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินชี้ชัดแล้วว่ามติมส.ผิดขั้นตอนของกฎหมายจึงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของม็อบพระล็อกเพราะจะเป็นการพิสูจน์ว่า ขบวนการที่อยู่เบื้องหลังสมเด็จช่วงจะยึดกฎหมายหรือจะใช้กฎหมู่ป่วนเมือง และจะเป็นการพิสูจน์ว่าเป็นพระแท้หรือพระเทียม

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment