ประชาธิปไตยครึ่งใบ ยังดีกว่าชาติกลับสู่วงจรอุบาทว์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/206792

วันจันทร์ ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
สัญญาณจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และรัฐบาลสะท้อนผ่านท่าทีจริงจังของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง น่าจะชัดเจนว่าคสช.และรัฐบาลเอาแน่ที่จะผลักดันให้สมาชิกวุฒิสภา(สว.)มาจากการสรรหาเพื่อเป็นกลไกแบบประชาธิปไตยครึ่งใบให้การเดินหน้าปฏิรูปประเทศช่วงเปลี่ยนผ่านหลังมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความราบรื่นไม่ทำให้แผนปฏิรูปประเทศต้องเสียของ

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)สนับสนุนแนวคิดให้มีสว.สรรหาเพราะไหนๆจะปฏิรูปประเทศทั้งทีก็ควรทำให้สุดไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ ซึ่งขณะนี้การปฏิรูปประเทศทำสำเร็จเพียงบางส่วนดังนั้นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งและจำเป็นต้องมีกลไกเพื่อปฏิรูปประเทศช่วงเปลี่ยนผ่านหลังการเลือกตั้งอีก 5 ปีเพื่อให้การปฏิรูปมั่นคงแข็งแรงก่อนกลับสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

บางคนตั้งข้อสังเกตว่าประชาธิปไตยจ๋าแบบตะวันตกบางครั้งก็ไม่สอดคล้องกับสภาพประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่เป็นธุรกิจการเมืองทุนสามานย์และเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่เต็มไปด้วยการทุ่มเงินซื้อ สส.ซื้อเสียง ซื้อประชาธิปไตย ซื้อประเทศเพื่อให้ได้อำนาจรัฐจากนั้นโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างมโหฬารเพื่อถอนทุนบวกกำไรมหาศาลและใช้อำนาจรัฐตามใจชอบ

อีกทั้งธาตุแท้ของนักการเมืองนั้นส่วนใหญ่ล้วนมุ่งที่ผลประโยชน์ของตัวเองโดยอ้างผลชาติบ้านเมืองและประชาชนบังหน้า ซึ่งต่างจาก คสช.ที่เข้ามายึดอำนาจด้วยสถานการณ์ที่จำเป็นเนื่องจากประเทศอยู่ในภาวะรัฐล้มเหลวและเสี่ยงที่จะเกิดการนองเลือดจึงจำเป็นต้องหยุดยั้งความหายนะที่จะเกิดกับชาติบ้านเมืองและทำการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
อันเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

แม้จะมีการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปประเทศไว้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่เชื่อเถอะในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นก็ไม่พ้นการซื้อ สส.และซื้อเสียงทั้งทางตรงทางอ้อมเพียงแต่เพิ่มความแนบเนียนซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้นซึ่งถือเป็นประชาธิปไตยที่บิดเบือน และเมื่อมีรัฐบาลหลังการเลือกตั้งโดยเฉพาะหากพรรคเพื่อแม้วได้เป็นรัฐบาลคุมอำนาจรัฐเชื่อได้เลยว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นและสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ที่จะนำประเทศไปสู่ความพินาศล่มจมจะกลับมา

เพราะฉะนั้นหากไม่มีกลไกบางอย่างไว้คอยถ่วงดุลและแก้ปัญหาผ่าทางตันเมื่อชาติเกิดวิกฤติในที่สุดก็หนีไม่พ้นที่กองทัพต้องก่อรัฐประหารยึดอำนาจกลายเป็นวงจรอุบาทว์ไม่รู้จบ

เพราะฉะนั้นไหนๆประชาชนส่วนใหญ่ก็ศรัทธาไว้ใจ คสช.ให้เดินหน้าปฏิรูปประเทศมาตั้งแต่ต้นก็ควรไว้ใจให้เดินหน้าต่อไปไม่ให้สิ่งที่ลงทุนมาทั้งหมดตั้งแต่ก่อรัฐประหารต้องเสียของ เพราะหากประชาชนถอดใจเลิกหนุนแนวทางคสช.นั่นหมายถึงประเทศไม่มีตัวช่วยอีกแล้วซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก ทั้งนี้ประชาธิปไตยแบบครึ่งใบในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญเพื่อแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองอย่างยั่งยืนยังดีกว่าประชาธิปไตยเต็มใบแบบจอมปลอมแล้วนำพาประเทศกลับไปสู่วังวนของวงอุบาทว์อันชั่วร้ายซ้ำซาก

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment