พิรุธปปช.ยุคบิ๊กกุ้ยมีมติถอนฟ้อง คดีรัฐบาลสมชายสลายพธม.ปี’51

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/212491

วันศุกร์ ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
นับเป็นมติที่มีพิรุธชวนให้สงสัยส่อไม่ชอบมาพากลเมื่อที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยุคใหม่ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ หรือ “บิ๊กกุ้ย” เป็นประธานจู่ๆ ก็นำคำร้องขอความเป็นธรรมคดีรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯหุ่นเชิดระบอบทักษิณสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวันที่ 7 ต.ค.เมื่อปี 2551 จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากและที่ประชุมมีมติด้วยเสียง 6 ต่อ 1 ให้ถอนฟ้องนายสมชายและพวกรวม 4 คน

ข้อน่าสังเกตประการแรกก็คือ คดีนี้ยืดเยื้อมานานหลายปี แต่ผู้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมอันประกอบด้วย นายสมชาย, พล.ต.อ.พัชรวาทวงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ยุครัฐบาลสมชาย และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เพื่อนร่วมรุ่นของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นักโทษหนีคุก กลับไม่สนใจร้องขอความเป็นธรรม แต่พอคณะกรรมการป.ป.ช.ยุค “บิ๊กกุ้ย” เข้ามาทำหน้าที่เท่านั้นก็ยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมทันที และป.ป.ช.ยุค “บิ๊กกุ้ย” เป็นใหญ่ ก็นำเรื่องเข้าหารือเป็นวาระจรทันทีเช่นกัน

ข้อน่าสังเกตประการที่สองคือ เป็นที่รู้กันว่ากรรมการป.ป.ช.ชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นกรรมกรชุดใหม่ที่เพิ่งเข้าทำหน้าที่ รวมทั้ง “บิ๊กกุ้ย” โดยเสียงให้ถอนฟ้องล้วนเป็นกรรมการชุดใหม่ ส่วน 1 เสียง ที่คัดค้านการถอนฟ้องก็คือนางสุภา ปิยะจิตติ อดีตประธานตรวจสอบคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจอมตงฉินที่เคยฝากผลงานฮือฮามาแล้ว

ข้อน่าสังเกตประการที่สามก็คือ คดีนี้ป.ป.ช.ชุดเดิมเคยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยยื่นฟ้องจำเลย 4 คนคือ นายสมชาย, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ขณะนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.สุชาติ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งศาลประทับรับฟ้องและเริ่มไต่สวนคดีนี้ไปแล้ว แต่จู่ๆ ป.ป.ช.ยุค“บิ๊กกุ้ย” ซึ่งเพิ่งเข้าทำหน้าที่ได้ไม่นานกลับถอนฟ้องเอาดื้อๆ

ข้อน่าสังเกตประการที่สี่ก็คือ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือไปยัง“บิ๊กกุ้ย” ว่า ไม่สมควรถอนฟ้องเพราะจำเลยสามารถร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลให้ไต่สวนเพิ่มเติมได้อยู่แล้ว อีกทั้งหากป.ป.ช.ถอนฟ้องอาจเข้าข่ายกระทำผิดทุจริตต่อหน้าที่และถูกฟ้องร้องเสียเอง แต่“บิ๊กกุ้ย” กลับยืนกรานส่งเรื่องกลับไปยังเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.เพื่อให้ทบทวนความเห็น

ประการที่ห้า ปมปัญหาที่ถูกตั้งข้อสงสัยและเป็นประเด็นสำคัญก็คือ “บิ๊กกุ้ย”ได้เป็นประธานป.ป.ช.ก็เพราะเป็นคนใกล้ชิดที่ทำงานรับใช้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นพี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่า การถอนฟ้องครั้งนี้อาจเพื่อช่วยให้พล.ต.อ.พัชรวาท รอดพ้นความผิด ซึ่งอาจถูกมองได้ว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน

จากมติที่ส่อไม่ชอบมาพากลของป.ป.ช.ยุค “บิ๊กกุ้ย” จึงไม่แปลกที่ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯซึ่งเป็นมือกฎหมายของรัฐบาลจะเตือนว่า อาจถูกมองเป็นมวยล้มต้มคนดู หรือรับสินบนมาหรือซ้ำร้ายป.ป.ช.อาจถูกฟ้องตกเป็นจำเลยเสียเองฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

Leave a comment