ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/210079
การที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสปท.ที่ให้ตั้งคำถามพ่วงร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงในการทำประชามติว่า ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่หากจะให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ร่วมกับสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกนายกฯหลังการเลือกตั้งกำลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกต่อต้านอย่างกว้างขวางว่าเป็นการส่อเจตนาสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างโจ๋งครึ่ม
บุคคลสำคัญที่ทำให้กระแสคัดค้านคำถามพ่วงที่กลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่มีน้ำหนักยิ่งขึ้นก็คือ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯสองสมัย ผู้อาวุโสแห่งพรรคประชาธิปัตย์ ที่เตือนว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ควรจะถอยหลังเข้าคลองมากเกินไป
และที่สำคัญคือแม้แต่ นายมีชัยฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ก็ยังส่ายหน้าชี้ว่า การตั้งคำถามพ่วงให้สว.ร่วมเลือกนายกฯเท่ากับขัดหลักการในตัวร่างรัฐธรรมนูญถาวรซึ่งจะทำให้มีปัญหาตามมาภายหลัง
การตั้งคำถามพ่วงให้สว.ร่วมเลือกนายกฯจีงเท่ากับสร้างจุดอ่อนให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงโดยเฉพาะข้อกล่าวหาในประเด็นอ่อนไหวคือความพยายามสืบทอดอำนาจของคสช. ซึ่งเข้าทางขบวนการเพื่อแม้วที่จ้องคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ประเด็นสืบทอดอำนาจจุดกระแสต่อต้านในวงกว้างให้ลุกโชนได้ง่ายอยู่แล้ว ยิ่งชัดเจนถึงขนาดให้สว.ร่วมเลือกนายกฯยิ่งทำให้การสุมไฟให้เกิดกระแสคว่ำร่างรัฐธรรมนูญมีความชอบธรรมมากขึ้นโดยเฉพาะในหมู่พลังเงียบ
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่ามติคำถามพ่วงให้สว.เลือกนายกฯได้ของสปท.จะเข้าสู่การพิจารณาของสนช.ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ จึงต้องจับตาดูว่าที่ประชุมสนช.จะหลงทางตามมติของสปท.หรือไม่ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่สปท.บางคนพยายามผลักดันประเด็นนี้หวังเอาใจคสช.เพื่อปูทางให้ตัวเองได้นั่งเก้าอี้สว.สรรหาตามที่กำหนดไว้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ทั้งนี้ ความจริงในร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงมีการกำหนดกลไกประชาธิปไตยครึ่งใบในช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังการเลือกตั้งในหลายประเด็น ซึ่งก็จะน่าจะเป็นหลักการในการกำกับให้การเดินหน้าปฏิรูปประเทศเป็นไปตามความต้องการของคสช.ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว จึงไม่ควรโลภหาเรื่องใส่ตัวโดยไม่จำเป็น
ที่ผ่านมาบุคคลสำคัญในคสช.ต่างประกาศยืนยันหนักแน่นมาตลอดว่าไม่คิดสืบทอดอำนาจเพราะนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสี่ยงเอาประเด็นระเบิดเวลามาพ่วงไว้กับร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่จำเป็นเพราะมีแนวโน้มสูงที่จะถูกคว่ำ และที่สำคัญปัญหานี้จะถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลสุมไฟให้ลุกลามบานปลายกลายเป็นวิกฤติ อีกทั้งทำให้ให้ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อคสช.สั่นคลอนและหวาดระแวงว่า แท้ที่จริงแล้วคสช.ทำเพื่อชาติประชาชนหรือเพื่อตัวเองกันแน่
ทีมข่าวการเมือง