ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/213068
นับเป็นการส่งสัญญาณพร้อมทำศึกแตกหักเมื่อนักโทษชายแม้วผู้เป็นนายใหญ่ออกโรงตอบโต้พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แบบตาต่อตาฟันต่อฟันหลังถูกระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการป่วนเมือง พร้อมทั้งโจมตีการบริหารของรัฐบาลนายกฯลุงตู่ว่าล้มเหลวและถึงขนาดท้าให้ประกาศใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับคสช.ไปเลยโดยไม่ต้องมาเสียเวลาทำประชามติ
ก่อนหน้านี้เครือข่ายขบวนการเพื่อแม้วทั้งบรรดาแกนนำพรรคเพื่อแม้วโดยเฉพาะ นายวัฒนา เมืองสุข และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มเสื้อแดง รวมทั้งกลุ่มนักวิชาการและนักศึกษาเสื้อแดงต่างออกมาเคลื่อนไหวสอดรับกันโดยอาศัยการต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะทำประชามติเป็นเครื่องมือสุมไฟให้เกิดกระแสลุกฮือต่อต้านคสช.และรัฐบาลทั้งในและนอกประเทศ โดยสร้างภาพความเป็นประชาธิปไตยและการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นข้ออ้างในการจุดกระแสสร้างความชอบธรรมเพื่อปูทางไปสู่เกมขั้นแตกหัก
โดยเป้าหมายของขบวนการเพื่อแม้วถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้มุ่งเพียงเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง แต่อาจมีเป้าหมายแอบแฝงที่ใหญ่กว่านั่นคือมุ่งบ่อนทำลายทำให้คสช.พ้นจากอำนาจโดยเร็วๆ ที่สุด เพราะเป้าหมายเฉพาะหน้าของขบวนการเพื่อแม้วก็คือต้องช่วยให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดรอดพ้นชะตากรรมที่มีแนวโน้มกำลังนับถอยหลัง อาจถูกยึดทรัพย์ เพื่อชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินเข้าไปทุกขณะ โดยคดีรับจำนำข้าวขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคาดว่าจะตัดสินอย่างช้าไม่น่าจะเกินช่วงต้นปีหน้าก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป
เพราะฉะนั้นด้วยเวลาที่รอไม่ได้และความหวังที่ระบอบทักษิณจะกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศหลังการเลือกตั้งหวังเคลียร์คดีช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์คงเป็นไปได้ยาก ทำให้ นักโทษชายแม้ว ผู้เป็นนายใหญ่คงยอมไม่ได้ที่จะทนเห็นน้องสาวต้องมารับกรรมอันเลวร้ายถึงขั้นเข้าคุกจากการชักใยของตัวเอง ยังไม่รวมเครือญาติตระกูลชินอีกหลายคนที่ถูกดำเนินคดีและมีสิทธิ์ติดคุกเช่นกัน
เพราะฉะนั้นจึงเห็นสัญญาณความเคลื่อนไหวแบบดับเครื่องชนของบรรดาแกนนำขบวนการเพื่อแม้วชัดเจนดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งออกมาท้าทาย ยั่วยุ และตอบโต้คสช.และรัฐบาลอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจพิเศษอีกต่อไป
ล่าสุด นายจตุพร และเหล่าแกนนำเสื้อแดงออกมาแถลงจุดกระแสคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง และที่สำคัญเดินเกมชักศึกเข้าบ้านแทรกแซงกิจการภายในอันเป็นการทำลายภาพพจน์ประเทศด้วยการเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติและประชาคมยุโรปเข้าร่วมสังเกตการณ์การลงประชามติที่จะมีขึ้นโดยอ้างว่าเพื่อความโปร่งใส
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถึงขั้นนักโทษชายแม้วผู้เป็นนายใหญ่เปิดตัวออกมาเปิดศึกชนช้างกับ “บิ๊กตู่” ด้วยตัวเอง ขณะที่แกนนำขบวนการเพื่อแม้วดาหน้าออกมาเคลื่อนไหวแบบดับเครื่องชนทำให้สถานการณ์จากนี้ไปมีแนวโน้มที่จะเดือดพล่านขึ้นทุกขณะทั้งเกมบนดินและใต้ดิน
ทีมข่าวการเมือง