ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/211317
หลังจากที่ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อแม้วออกแถลงการณ์ขึงขังไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง และปลุกระดมให้ประชาชนร่วมคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในการลงประชามติ แต่ล่าสุดพรรคเพื่อแม้วกลับลำถอยเอาดื้อๆ เสียแล้ว
โดย นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อแม้ว มีหนังสือเรื่อง ข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญถึงกรรมการบริหารพรรค พนักงาน เจ้าหน้าที่ และสมาชิกพรรค โดยเนื้อหาของหนังสือสรุปได้ว่า หลังมีการตรา พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญโดยมีการกำหนดข้อห้ามในการแสดงความคิดเห็นหรือรณรงค์เกี่ยวกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกำหนดโทษอย่างสูงเอาไว้ พรรคเพื่อแม้วมีแนวทางให้สมาชิกถือปฏิบัติดังนี้คือ
1.ขอให้ดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญใต้กรอบ พ.ร.บ.ดังกล่าว 2.การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว หากพรรคจะมีการชี้แจงหรือทำความเข้าใจกับประชาชน พรรคจะพิจารณาออกแถลงการณ์เป็นคราวๆ ไป 3.หากมีการแอบอ้างชื่อพรรคไม่ว่าจะเป็นการกระทำใดๆ ให้แจ้งพรรคเพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขต่อไป 4.พรรคได้สั่งการดำเนินการให้นำแถลงการณ์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญออกจากเว็บไซต์หลังจากที่พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ และให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเนื้อหาและจัดเก็บข้อมูลที่อาจเสี่ยงว่าฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ 5.การออกเสียงประชามติเป็นวิจารณญาณของตนเองที่จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
จากหนังสือของพรรคเพื่อแม้วดังกล่าวในภาพรวมสะท้อนนัยทางการเมืองที่น่าสนใจว่า พรรคเพื่อแม้วกลับลำแบบ 360 องศา เพราะผวายาแรงและการจัดหนักของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตลอดจน พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เหล่าแกนนำและอดีตสส.พรรคเพื่อแม้วต่างดาหน้าออกมายั่วยุท้าทายคสช.แบบดับเครื่องชน และพรรคเพื่อแม้วถึงกับออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและปลุกระดมให้ประชาชนร่วมรณรงค์คว่ำรัฐธรรมนูญ แต่ล่าสุดกลับยอมเสียหน้าลบแถลงการณ์แสดงจุดยืนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญออกจากเว็บไซต์ของพรรค
ทั้งนี้เพราะการชี้นำหรือปลุกปั่นให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติโดยเฉพาะเป็นขบวนการที่ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป มีโทษสูงสุดจำคุกถึง 10 ปี และอาจถูกฟ้องศาลเพื่อให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี ซึ่ง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตือนว่าพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติมีผลบังคับใช้แล้ว ดังนั้นผู้ที่เข้าข่ายทำผิด พ.ร.บ.ต้องถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
อาการเกลียดตัวกินไข่คือจ้องคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็อยากเลือกตั้งทำให้พรรคเพื่อแม้วอยู่ในสภาพลังเลกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รวมทั้งหวาดผวาเจอยาแรง และการที่สั่งให้สมาชิกพรรคเพื่อแม้วเคลื่อนไหวแบบแยกส่วนตัวใครตัวมัน เพราะงานนี้ถ้าพลาดเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอาจมีสิทธิตายหมู่ยกแก๊ง
ทีมข่าวการเมือง