ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/573906
โดย ซี.12 8 ก.พ. 2559 05:01

ทั้งน้อยใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยกำลังทุ่มเทอยู่กับการผลักดันมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้าน) อันเป็นงานชิ้นสำคัญที่รัฐบาลภูมิใจ
มีบันทึกจากคนทำงานในมหาดไทยให้ช่วยเผยแพร่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการนี้ซึ่งไม่มีอะไรขัดข้องอยู่แล้ว
งานนี้มีเป้าหมายในการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนผู้มีรายได้น้อยอ่อนแอลง โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้ตำบลละ 5 ล้านบาท จำนวน 7,255 ตำบล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 36,275 ล้านบาท ให้ประชาชนในพื้นที่เสนอความต้องการผ่านการจัดทำโครงการที่จะก่อให้เกิดการจ้างงาน การบริโภค การลงทุนในพื้นที่ และผลักดันให้เกิดการพัฒนาในท้องถิ่นและภูมิภาคอย่างทั่วถึง
กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2559 ซึ่งแต่ละอำเภอได้รวบรวมโครงการจากความต้องการของพื้นที่ โดยใช้หมู่บ้านและตำบลเป็นกลไกในการนำเสนอโครงการ เสนอไปยังคณะกรรมการในระดับจังหวัดที่ช่วยกลั่นกรองตรวจสอบโครงการ และมีอำนาจอนุมัติโครงการให้เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ เงื่อนไขที่กำหนด ก่อนส่งไปยังสำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อให้พื้นที่ดำเนินโครงการต่อไป
ในขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณเป็นภารกิจสำคัญที่กรมบัญชีกลางรับไปดำเนินการโดยในปัจจุบันมีโครงการที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงบประมาณแล้วกว่า 111,348 โครงการ งบประมาณ 33,361 ล้านบาทเศษ หรือร้อยละ 91.96 ของงบประมาณทั้งหมด และคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จทันตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องธรรมดาที่การดำเนินมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาลมักจะมาพร้อมๆกับข้อวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของการบริหารโครงการไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อจัดจ้าง ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมในการดำเนินการ ตลอดจนความล่าช้าของการดำเนินโครงการ
เรื่องนี้จำเป็นต้องทำความเข้าใจว่า การบริหารโครงการในแต่ละขั้นตอนนั้นจะมีกรอบระยะเวลาไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งกฎเกณฑ์ต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เพราะเป็นเครื่องมือในการกำกับให้งบประมาณที่ลงไปในพื้นที่ถูกใช้อย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า กฎเกณฑ์ดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างหรือทำให้ความล่าช้าเป็นเรื่องปกติ
ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายของนโยบาย เช่น การเน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้วยความทุ่มเทเต็มความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกฝ่าย ให้มีการมีกำกับดูแลการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิดมิให้เกิดช่องว่างไปสู่การทุจริต การจัดหน่วยเคลื่อนที่ลงพื้นที่เพื่อให้คำแนะนำและติดตามความก้าวหน้าของโครงการ เป็นต้น
นอกจากนี้ ควรมีการประสานความร่วมมือเพื่อสร้างกลไกการขับเคลื่อนมาตรการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ สำนักงาน ป.ป.ช. สตง. ตลอดจนองค์กรภาคประชาชนในพื้นที่
แล้ววันพรุ่งนี้จะมีตัวอย่างดีๆมาให้ดูกัน.
“ซี.12”