ซีพีไอเปิดแฟรนไชส์สวนกระแส ปั้นมาตรฐานปาล์มไทยสู่เออีซี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/596948

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 28 มี.ค. 2559 05:01

 

ทั้งที่ราคาสินค้าเกษตรตกรูด แต่ ซีพีไอ อะโกรเทค บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันรายใหญ่ของไทย กลับเปิดแนวรุกครั้งใหญ่ ทำธุรกิจแฟรนไชส์กล้าพันธุ์ ซีพีไอ ไฮบริด ประเดิมในพื้นที่ 3 จังหวัด…พังงา, ระนอง และระยอง

จนเป็นที่สงสัย…ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำไมถึงช่างหาญกล้า

“พืชเศรษฐกิจหลักวันนี้ ตัวไหนบ้างมีอนาคต ยางอีก 3 ปีก็ยังไม่ฟื้น ยิ่งราคาน้ำมันถูกอย่างนี้ยากจะกลับมาทำรายได้ สินค้าตัวอื่นก็อยู่ในสภาพล้นตลาด มีแต่ปาล์มน้ำมันเท่านั้นที่พอจะมีอนาคต” โกศล นันทิลีพงศ์ กก.ผจก.บริษัท ซีพีไอ อะโกรเทค ไขปริศนาข้อสงสัย

สอดคล้องกับมุมมองของ นิคม แซ่จึง เกษตรกรรายใหญ่ ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ทำการเกษตรบนที่ดินหลายพันไร่ ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย…แต่วันนี้คิดจะปลูกปาล์ม

“เพราะทำอ้อย 1,000 ไร่ เหลือเงินเข้ากระเป๋าไม่ถึงแสน ต้นทุนสูง ต้องใช้คนงาน 100 คน รถไถ 3 คัน แต่ปลูกปาล์มใช้รถไถแค่ 2 คัน คนงานแค่ 10 คน ตอนนี้ปลูกไปแล้ว 70 ไร่ ได้ปีละเป็นล้าน นี่ขนาดพันธุ์ยังไม่ดีเท่าไร เพราะยังอยู่ในขั้นซื้อพันธุ์มาปลูกพิสูจน์ 5 ปี พันธุ์ไหนให้ผลผลิตดีที่สุด จะทยอยเปลี่ยนไปปลูกพันธุ์นั้น”

และผลจากการปลูกมานับหลายพันธุ์ นิคม ยอมรับพันธุ์ซีพีไอ ไฮบริด ให้ผลผลิตดีกว่าพันธุ์อื่น แค่ 20 เดือน เริ่มให้ทะลายแล้ว ทั้งที่พื้นที่ปลูกอยู่ในสภาพแห้งแล้ง ปีที่แล้วแล้ง 6 เดือน มาปีนี้แค่ มี.ค. แล้งไปแล้ว 5 เดือน แต่พันธุ์นี้ยังให้ลูก…ด้วยเหตุผลนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ซีพีไอจะใช้โอกาสนี้รุกตลาด

“เราเริ่มธุรกิจในปีนี้ ไม่ใช่เพราะสถานการณ์ แต่เพราะบริษัทได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาพันธุ์ปาล์มน้ำมัน ซีพีไอ ไฮบริด ที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศ ฝนน้อย 1,500 มม.ต่อปี แต่ให้ผลผลิตสูงไร่ละ 5-6 ตัน เมื่อ 8 ปีก่อน และได้จำหน่ายพันธุ์ให้เกษตรกรไปปลูกในพื้นที่ฝนน้อย ผลพิสูจน์ออกมาให้เห็นแล้วว่าพันธุ์ของเราดีจริง ในช่วงจังหวะนี้พอดี”

เมื่อเกษตรกรรู้ข่าวบอกต่อๆกัน ความต้องการ เปลี่ยนมาปลูกปาล์มมีมากขึ้นเกินกว่าทางบริษัทจะผลิตกล้าพันธุ์ได้ทัน จึงต้องเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ขึ้นมา เพื่อให้มาช่วยขยายกำลังผลิตให้เพียงพอ และเป็นทางเลือกให้เกษตรกรมั่นใจว่าได้พันธุ์ปาล์มที่มีคุณภาพจริง… ไม่ใช่พันธุ์ดูใบ พันธุ์ใต้โคนไปปลูก

โดยบริษัทจะเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ร่วมทำธุรกิจแฟรนไชส์ ให้คำแนะนำในเรื่องนำเมล็ดพันธุ์มาเพาะเป็นกล้าพันธุ์…ส่วนเรื่องคุณภาพ เกษตรกรไม่ต้องกังวล เพราะทางบริษัทจะมีการนำระบบตรวจสอบคุณภาพ ISO 9001 เวอร์ชั่น 2008 ที่ต่างประเทศใช้กัน มาควบคุมมาตรฐานการเพาะขยายพันธุ์กับธุรกิจแฟรนไชส์ทุกแห่ง…ทั้งนี้ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการผลิตกล้าพันธุ์ที่มีมาตรฐานจำหน่ายให้กับเกษตรกร

นิคมโชว์ให้ดูทะลายปาล์มน้ำมัน ที่ปลูกมาได้ 20 เดือน ในพื้นที่แล้งฝนปีละ 5-6 เดือน.

และนี่จะเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการปาล์มน้ำมันในอาเซียนอีกด้วย เพราะเวลานี้ประเทศเพื่อนบ้านเริ่มให้ความสนใจมาเยี่ยมๆมองๆ ขอมีเอี่ยว…ได้เวลาพันธุ์ปาล์มน้ำมันไทยไปนอกกันบ้างแล้ว.

ชาติชาย ศิริพัฒน์

Leave a comment