ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/215789
ศึกแตกหักระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กับขบวนการระบอบทักษิณนับวันจะแหลมคมและดุเดือดเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคดีทุจริตออกมาดับเครื่องชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. โดยเครือข่ายระบอบทักษิณใช้การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงเป็นเครื่องมือจุดชนวนสุมไฟวิกฤติด้วยการอ้างการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปิดกั้นเสรีภาพในการเคลื่อนไหวสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง ขณะที่คสช.เพิ่มความเข้มในการใช้มาตรการตามกฎหมายจัดการกับแกนนำและเครือข่ายระบอบทักษิณ
การเดินเกมของเครือข่ายระบอบทักษิณพยายามที่จะเคลื่อนไหวบ่อนทำลายยั่วยุท้าทายคสช. เพื่อให้ คสช.ใช้อำนาจคุมตัวหรือเรียกไปปรับทัศนคติเพื่อชิงพื้นที่ข่าวและเป็นข้ออ้างในการเติมเชื้อไฟปลุกกระแสต้าน คสช. ในประเทศ ขณะเดียวกันก็เพื่อเป็น
ข้ออ้างชักศึกเข้าบ้านเพื่อให้องค์กรระหว่างประเทศรวมทั้งนานาชาติกดดันคสช.ด้วยข้ออ้างละเมิดสิทธิมนุษยชน
และไม่เป็นประชาธิปไตย
การจับกุม 8 มือเพจซึ่งเป็นกลุ่มรับจ้างป่วนเมืองด้วยการแพร่ข้อความทางโซเชียลมีเดียบ่อนทำลายคสช.และหมิ่นเบื้องสูงที่โยงใยไปถึง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มคนเสื้อแดง และ นายพานทองแท้ ชินวัตรบุตรชายของนายทักษิณ เป็นหนึ่งในแนวรบซึ่งเป็นศึกประลองกำลังกันระหว่างขบวนการระบอบทักษิณกับ คสช.
นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมดำเนินคดี น.ส.พัฒน์นรีชาญกิจ แม่ของ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำนักศึกษาที่เคลื่อนไหวป่วนเมืองคนสำคัญ ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทางโซเชียลมีเดียโดยแม่ของจ่านิวส่อเจตนากรทำผิดมาอย่างต่อเนื่องโดยมีหลักฐานชัดเจน
ที่น่าสนใจคือการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่นำโดย นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา และ นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ จากคณะเศรษฐกิจที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นก๊วนนักวิชาการเสื้อแดงขาประจำหน้าเดิมได้ยื่นหนังสือถึงสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทยโจมตีคสช.ด้วยข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงคือ มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการจับกุม ซ้อม ทรมานฝ่ายที่เห็นต่างกับอำนาจรัฐ ซึ่งปัญหานี้มีความพยายามทำให้บานปลายไปถึงสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนฯซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อันเป็นไปตามแผน “โลกล้อมไทย” ของขบวนการระบอบทักษิณ
ขณะที่ขบวนการระบอบทักษิณเคลื่อนไหวดุเดือดเข้มข้นขึ้นทุกขณะ คสช.ก็ตอบโต้โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ และที่สำคัญคือการย้ำแผลซึ่งเป็นชนักปักหลังบรรดาแกนนำขบวนการระบอบทักษิณ ด้วยการเร่งและรื้อคดีทุจริตสำคัญยุคระบอบทักษิณครองเมือง
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณหาหลักฐานเพิ่มเติมมัดและเร่งคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรยุครัฐบาลทักษิณซึ่งคดีนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) โดยหนึ่งในจำเลยคนสำคัญของคดีนี้คือ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ช่วงหลังส่อเจตนาออกมาเคลื่อนไหวยั่วยุท้าทายคสช.ชนิดดับเครื่องชน
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังสั่งให้กระทรวงพาณิชย์เร่งสรุปตัวเลขความเสียหายจากการทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์เพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายคืนแก่แผ่นดินจากผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยมีจำเลยคนสำคัญคือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังกำลังเตรียมสรุปตัวเลขความเสียหายทั้งหมดจากโครงการรับจำนำข้าวเพื่อฟ้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดระบอบทักษิณ ชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดิน นอกเหนือจากคดีอาญาซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ภายใต้สถานการณ์ศึกชนช้างที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าระบอบทักษิณซึ่งนับวันจะอยู่ในสภาพหลังพิงฝาต้องระดมสมัครพรรคพวกและวิธีการทุกรูปแบบทั้งบนดินและใต้ดินเพื่อเปิดศึกแตกหักในทุกแนวรบด้วยการสร้างสถานการณ์สุมไฟให้เกิดความระส่ำระสายในบ้านเมืองทั้งภายในและนอกประเทศ ดังนั้นแนวโน้มอุณหภูมิการเมืองจากนี้ไปคาดว่าจะร้อนแรงเดือดพล่านขึ้นเรื่อยๆ
ทีมข่าวการเมือง