ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/220913
สำหรับธัมมชโย เจ้าสำนักจานบินขณะนี้คงไม่สามารถใช้อิทธิฤทธิ์หนี กรรมและความจริงไปได้อีกแล้ว หลังพยายามยื้อเกมถ่วงเวลาหนีหมายจับข้อหาพัวพันฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมานาน เพราะมาถึงจุดที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประกาศ 2 ทางเลือกสำหรับชะตากรรมของธัมมชโยคือ มอบตัวหรือบุกจับ
ล่าสุดมีรายงานข่าวภายหลังการหารือระหว่างตัวแทนดีเอสไอและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่นำโดย พล.ต.อ.ศรีวรา รังสิพรหมกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยวางแผนจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดีเดย์เตรียมเข้าจับกุม ธัมมชโย ในวันศุกร์ที่ 17 มิ.ย.นี้
มีความพยายามอ้างว่าในเมื่อดีเอสไอยื่นฟ้องต่ออัยการแล้วก็ควรรอฝ่ายอัยการ ซึ่งจะชี้ขาดส่งฟ้องต่อศาลหรือไม่ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ จึงไม่ควรบุกจับ ธัมมชโย ในช่วงนี้ ซึ่งการที่ดีเอสไอต้องรีบจับตัว ธัมมชโย ให้ได้เพราะมีปัญหาข้อกฎหมายตามมาตรา 120 ของประมวลกฎหมายอาญาที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีใดต่อศาลโดยมิได้มีการสอบสวนในความผิดนั้นก่อน” ซึ่งหมายความว่าต้องได้ตัว ธัมมชโย และต้องมีการสอบสวนก่อน อัยการจึงส่งฟ้องศาลได้
ถึงเวลานี้สังคมได้รับรู้ความจริงหูตาสว่างกันทั้งประเทศแล้วว่าการออกหมายจับครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการกลั่นแกล้งอย่างที่พยายามบิดเบือน แต่มีจุดเริ่มต้นมาจากคดียักยอกเงินคนชราที่ฝากไว้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเพื่อหวังกินดอกผลในช่วงบั้นปลายชีวิตอันเป็นคดีที่เกิดขึ้นนานแล้ว โดยเงินกว่า 16,000 ล้านบาทถูก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โกง แล้วยักย้ายถ่ายเทเงินส่วนหนึ่งโอนเข้าบัญชี ธัมมชโย และเครือข่ายศิษย์สำนักจานบิน ซึ่งมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อถูกโกงแจ้งความให้ดำเนินคดีกับขบวนการยักยอก ซึ่งดีเอสไอทำตามหน้าที่ขยายผลการสอบสวนจนนำมาสู่การออกหมายจับ ธัมมชโย และพวก
คดีนี้มีความชัดเจนจากการสารภาพครั้งล่าสุดของ นายศุภชัย เองที่ระบุว่ามีขบวนการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ยักยอกและยอมรับว่าตัวเองเป็นคนสนิทของ ธัมมชโย ถึงกับมีรหัสลับเวลาสื่อสารเรียกชื่อกัน นอกจากนี้การที่ นางศศิธร โชคประสิทธิ์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและเป็นศิษย์สำนักจานบินหนีออกนอกประเทศเป็นการฟ้องชัดอยู่แล้วว่าผิดจริง
การที่สำนักจานบินพยายามประโคมสร้างภาพมั่นใจในความบริสุทธิ์ของ ธัมมชโย นั้น ทำให้เกิดคำถามว่าถ้าอย่างนั้นทำไมไม่มอบตัวสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม แต่กลับพยายามยื้อหนีหมายจับมาตลอด
นอกจากนี้การที่สำนักจานบินออกแถลงการณ์ซึ่งมีเนื้อหาอ้างว่าการดำเนินคดีกับ ธัมมชโย จะสร้างผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างใหญ่หลวงนั้นถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงข่มขู่ใช้อิทธิพลสำนักจานบินทั้งเงินและสาวกที่มีอยู่ทั่วประเทศกดดันไม่ต่างจากการใช้กฎหมู่เหนือกฎหมายและสะท้อนว่า ธัมมชโย แตะไม่ได้ทั้งๆ ที่มีสถานะเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับ
ความจริง ธัมมชโย นั่นแหละที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าสั่นคลอนวงการพระพุทธศาสนาด้วยการประพฤติผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงทั้งการยักยอกทรัพย์สินของวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวและเผยแพร่ลัทธิพุทธพาณิชย์ขายบุญ รวมทั้งอวดอุตริมนุสธรรมแสดงตัวเป็นผู้วิเศษจน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เคยมีพระบัญชาให้ปาราชิกพ้นความเป็นพระตั้งแต่ปี 2542
เพราะฉะนั้นได้แต่หวังว่าธัมมชโยจะสำนึกเห็นแก่ชาติบ้านเมืองและวงการพุทธศาสนาด้วยการยอมมอบตัวก่อนที่ดีเอสไอจะบุกจับ เพราะถึงจะดันทุรังคิดสู้ยังไงก็หนีกฎแห่งกรรมไปไม่พ้น เพราะนี่ไม่ใช่ยุคระบอบแม้วครองเมืองที่จะพลิกขาวเป็นดำพลิกดำเป็นขาวเหมือนในอดีต
ทีมข่าวการเมือง