พวกสิทธิมนุษยชนจอมปลอม ซาตานในคราบนักบุญ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/215642

วันเสาร์ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
มะกันอันตรายรวมทั้งเหล่าชาติตะวันตก ตลอดจนองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งหลายพยายามสร้างภาพเป็นนักบุญลวงโลกทั้งๆ ที่โฉมหน้าตัวตนที่แท้จริงของพวกประดานี้ก็คือซาตานในคราบนักบุญที่ซ่อนเบื้องหลังแอบแฝงอันชั่วร้ายทางการเมืองและผลประโยชน์

อย่าว่าแต่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติแม้แต่องค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีบรรดาชาติมหาอำนาจและพันธมิตรชักใยอยู่เบื้องหลัง เพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเมืองในเวทีโลก

ขณะที่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนไม่ว่าจะเป็นแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ฮิวแมนไรท์วอทช์ หรืออีกสารพัดองค์กรที่อุปโลกน์ตั้งขึ้นมา ตลอดจนบรรดาสื่อตะวันตกทั้งหลายส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกผีโม่งแป้งที่พร้อมรับจ้างงานทุกอย่างตามใบสั่งไม่ว่างานที่ถูกจ้างจะเลวทรามเพียงใดก็ตาม และที่อุบาทว์ชั่วร้ายก็คือมีคนไทยขายชาติบางกลุ่มสมคบกับขบวนการซาตานในคราบนักบุญโดยอ้างสิทธิมนุษยชนบังหน้า และเลวทรามถึงกับให้ท้ายขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูง

มะกันอันตรายยังคงธาตุแท้ซ่อนหางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ของตัวเองอย่างไม่เปลี่ยนแปลง โดยล่าสุดยังส่อเจตนาให้ท้ายขบวนการป่วนเมืองเพื่อแม้ว รวมทั้งแก๊งอุบาทว์หมิ่นเบื้องสูงด้วยการจุ้นกดดันไทยให้หยุดคุกคามสิทธิเสรีภาพและละเมิดสิทธิมนุษยชนสะท้อนผ่านการเข้าพบ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ของ นายเกล็นที.เดวี่ส์ เอกอัครราชทูตมะกันอันตรายประจำประเทศไทยโดยทูตมะกันอันตรายอหังการถึงกับกดดันว่า “การจับกุมนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทยเป็นการไม่เคารพเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างบรรยากาศการข่มขู่ สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อพันธกรณีของไทยที่ต้องเคารพเสรีภาพในการแสดงความเห็น รวมถึงกรณีนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร”

มะกันอันตรายเที่ยวกดดันให้ประเทศต่างๆ เคารพหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งๆ ที่ตัวเองประพฤติตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง โดยทำตัวเป็นอันธพาลโลกซาตานในคราบนักบุญตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันด้วยการเที่ยวรุกรานแทรกแซงและปล้นผลประโยชน์ตลอดจนจุดไฟสงครามทำลายชีวิตผู้คนในประเทศต่างๆ มาแล้วมากมาย หรือการตั้งคุกลับในหลายประเทศเพื่อทรมานนักโทษที่เป็นปฏิปักษ์กับมะกันอันตรายด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมอำมหิต หรือแม้แต่การทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลไร้พรมแดนในอัฟกานิสถาน ทำให้แพทย์และพยาบาลตลอดจนคนไข้เสียชีวิตจำนวนมาก หรือการจับชาวอเมริกันกลุ่ม Sping Democray กว่า 1,000 คน ที่ออกมาชุมนุมต่อต้านประชาธิปไตยที่ล้มเหลวเน่าเฟะของมะกันอันตราย

การที่ก่อนหน้านี้ นางแคตินา อดัมส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศมะกันอันตรายภาคพื้นเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ออกมากดดันทางการไทย
ที่ดำเนินคดีกับ น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ ซึ่งเป็นแม่ของ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” แกนนำนักเคลื่อนไหวป่วนเมืองตัวยงฐานหมิ่นเบื้องสูงอันเป็นความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ทำให้พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต้องออกมาตอบโต้ว่า มะกันอันตรายควรพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน อีกทั้งสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนนั้นต้องอยู่ภายใต้กฎหมายซึ่งทุกประเทศล้วนไม่แตกต่างกัน

ที่ผ่านมาระบอบแม้วประพฤติชั่วร้ายละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงมากมาย อาทิ สังหารเหยื่อกว่า 2,500 ศพ ในสงครามกวาดล้างยาเสพติดสลายการชุมนุมของชาวไทยมุสลิมที่อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ศพ การใช้วิธีการรุนแรงอุ้มฆ่าชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งกลุ่มอันธพาลลอบทำร้ายการชุมนุมของมวลมหาประชาชนจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แต่มะกันอันตรายและเหล่านักสิทธิมนุษยชนกลับเฉยไม่ออกมาประณามกดดัน ซึ่งสะท้อนความเป็นนักสิทธิมนุษยชนจอมปลอมของเหล่าซาตานในคราบนักบุญที่ซ่อนเบื้องหลังแอบแฝง

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment