ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/218499
เหล่าสาวกสำนักจานบินรวมทั้งขบวนการเพื่อแม้วซึ่งเป็นพวกเดียวกันทั้งให้สัมภาษณ์และเผยแพร่ข้อความทางโซเชียลมีเดียกันอย่างแพร่หลายส่อเจตนาบิดเบือนเบี่ยงเบนประเด็นกรณีหมายจับธัมมชโย เจ้าสำนักจานบิน โดยพยายามชี้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งรังแกพระ ย่ำยีพุทธศาสนาจน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ต้องออกมาชี้แจงทำความจริงให้ปรากฏเพื่อไม่ให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการตกเป็นเหยื่อการโฆษณาชวนเชื่อหวังสุมไฟป้องธัมมชโย
ประเด็นมันอยู่ที่ว่าการออกมาจับครั้งนี้เป็นเรื่องเดิมมานานแล้วสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้มีผู้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สอบสวนเอาผิดกับขบวนการโกงเงินฝากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท โดยเงินฝากของสหกรณ์ล้วนเป็นเงินของเหล่าคนชราซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการเกษียณที่เก็บเงินมาทั้งชีวิตแล้วนำมาฝากที่สหกรณ์หวังใช้ดอกเบี้ยเลี้ยงชีพในช่วงบั้นปลายชีวิต แต่ถูก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และพวกโกงเอาดื้อๆ ซึ่งจากการสอบสวนในที่สุดมีการจับกุมดำเนินคดี นายศุภชัย ที่ขณะนี้ใช้กรรมอยู่ในเรือนจำและจากการขยายผลพบหลักฐานชัดเจนเท่าที่ตรวจสอบพบในเบื้องต้นว่าเงินกว่า 2,000 ล้านบาท จาก นายศุภชัย ถูกเล่นแร่แปรธาตุโอนไปยัง ธัมมชโย และเครือข่ายในสำนักจานบิน โดยมีการสั่งจ่ายเช็คเฉพาะในชื่อ ธัมมชโย เกือบ 1,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ทีมโฆษกสำนักจานบินยืนกรานอ้างมาตลอดว่า ธัมมชโย ไม่รู้จักมักคุ้นกับ นายศุภชัย แต่ล่าสุด นายศุภชัย เริ่มสำนึกสารภาพกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอและอัยการอย่างหมดเปลือก เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมากพร้อมเปิดเผยว่า ตัวเองเคยเป็นไวยวัจกรณ์ดูแลเรื่องการเงินให้สำนักจานบินและเป็นคนวงในใกล้ชิด ธัมมชโย เป็นอย่างมากถึงขั้นใช้รหัสลับเรียกชื่อระหว่างกันเวลาติดต่อพูดคุย
เพราะฉะนั้นการที่ดีเอสไอออกหมายจับ ธัมมชโย จึงไม่ใช่เรื่องกลั่นแกล้งรังแกพระย่ำยีศาสนาอย่างที่บิดเบือน แต่เป็นเรื่องที่เกิดจากคดีโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่มีหลักฐาน
เชื่อมโยงมาถึง ธัมมชโย และพวก ซึ่งดีเอสไอก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่มิฉะนั้นอาจถูกฟ้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
และอาจด้วยพยานหลักฐานที่มัดแน่นทำให้ ธัมมชโย และเหล่าสาวกใกล้ชิดพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยการหนีหมายจับดีเอสไอด้วยการหลอกล่อลวงโลกซื้อเวลาอ้างว่า ธัมมชโย ป่วยหนักซ้ำซากไม่สามารถเข้ามอบตัวได้
การที่ปรากฏภาพรถแบ๊กโฮหลายคันจอดขวางทางเข้าสำนักจานบินหรือที่เลวร้ายไปกว่านั้นมีการใช้ลวดหนามที่ใช้เฉพาะในวงการทหารและตำรวจวางเป็นแนวขวางทางเข้าสำนักจานบิน รวมทั้งมีกองกำลังที่สวมหมวกและใช้ผ้าดำปิดจมูกปากเป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยว่า นี่คือพฤติการณ์ของวัดหรือกองบัญชาการรบกันแน่
ล่าสุด นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกสำนักจานบิน ออกมาส่งสัญญาณเชิงข่มขู่ในทำนองว่า ขณะนี้สาวกสำนักจานบินทั้งในประเทศและทั่วโลกกำลังจะหมดความอดทนและพร้อมออกมาปกป้อง ธัมมชโย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากธัมมชโยยังมีคุณธรรมอยู่บ้างก็ต้องมอบตัวพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันเหล่าสาวกสำนักจานบินควรใช้สติตรึกตรองและเห็นแก่เหล่าคนชราตาดำๆ หลายหมื่นคนที่ฝากเงินไว้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่เดือดร้อนและช้ำใจอย่างหนักที่ยังไม่ได้เงินที่ถูกโกงคืนบ้าง ไม่ใช่คิดแต่จะปกป้องผู้ต้องหาหนีหมายจับอย่างไม่ลืมหูลืมตาโดยไม่แยกแยะผิดถูกชั่วดี
ทีมข่าวการเมือง