ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/213369
ข้อเรียกร้องของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ประธานกลุ่มคนเสื้อแดงที่พยายามจุดกระแสให้องค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)และกลุ่มประชาคมยุโรป(อียู)เข้ามาสังเกตการณ์การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงของไทยถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเกมการเมืองที่หวังชักศึกเข้าบ้านและสร้างความปั่นป่วนบ่อนทำลายภาพพจน์ของประเทศ
จึงไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ปัดข้อเรียกร้องของ นายจตุพรอย่างไม่ให้ราคาโดยย้ำว่า จะไม่ยอมให้ต่างชาติเข้ามายุ่งเกี่ยวกิจการภายในของไทยอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัยรมว.ต่างประเทศ สอนมวยประจานความถ่อย ดิบ เถื่อนของขบวนการแดงเพื่อแม้ว ด้วยลีลานักการทูตผู้มีอารยะว่า การทำประชามติในโลกนี้ไม่มีองค์กรระหว่างประเทศไหนเข้ามายุ่งเกี่ยวเพราะถือเป็นกิจการภายในไม่ใช่การเลือกตั้ง ข้อเสนออย่างนี้มันผิดตั้งแต่แรก หรือแม้เป็นการเลือกตั้งหากองค์กรระหว่างประเทศจะเข้ามาสังเกตการณ์ก็เฉพาะในกรณีที่ประเทศเจ้าบ้านเชิญให้เข้ามาเท่านั้น ทั้งนี้จนปัจจุบันก็ยังไม่เห็นมีองค์กรระหว่างประเทศองค์กรไหนที่แสดงท่าทีอยากเข้ามาสังเกตการณ์ทำประชามติเพราะเขามีมารยาทพอ
ข้อเรียกร้องของขบวนการแดงเพื่อแม้วดูก็รู้ว่าเป็นเกมการเมืองหวังสร้างความสับสนปั่นป่วนให้กับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ตามแผน “โลกล้อมไทย” เพื่อบ่อนทำลายความชอบธรรมของคสช.
ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่งก็เป็นการประจานธาตุแท้ที่กลับกลอกของขบวนการเพื่อแม้ว เพราะหากยังจำกันได้ในยุครัฐบาลระบอบทักษิณภายใต้การนำของ นายทักษิณ ชินวัตรเรืองอำนาจสุดขีด อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก เคยประกาศอย่างอหังการว่า “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ” โดยจะไม่ยอมให้องค์กรระหว่างประเทศไม่ว่าองค์กรไหนเข้ามาตรวจสอบหรือยุ่มย่ามอธิปไตยของไทยอย่างเด็ดขาด แต่เมื่อระบอบทักษิณพ้นจากอำนาจทางการเมืองกลับเปลี่ยนจุดยืนท่าที ชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้าด้วยการชักศึกเข้าบ้านใช้แผน “โลกล้อมไทย” เรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศและประเทศต่างๆบอยคอตต์ คสช.และรัฐบาลชุดปัจจุบัน หวังปูทางให้ระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง
จากพฤติการณ์ของขบวนการเพื่อแม้วตลอดช่วงที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความถ่อย ดิบ เถื่อนพร้อมทำสิ่งชั่วร้ายได้ทุกอย่าง ขอเพียงให้บรรลุเป้าหมายและผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งอย่าว่าแต่ชักศึกเข้าบ้านเพื่อบ่อนทำลายแผ่นดินเกิดตัวเอง แม้แต่ก่อจลาจลทั่วเมืองหลวงและบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจา หรือก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง จนพินาศย่อยยับก็มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว แต่เกมชักศึกยูเอ็นและอียูเข้าบ้านครั้งนี้เห็นทีจะเหลวเพราะยูเอ็นและอียูคงรู้ทันและคงไม่ถ่อยดิบเถื่อนซุ่มซ่ามลนตามแผน “โลกล้อมไทย”ของขบวนการเพื่อแม้วอย่างไร้อารยะ
ทีมข่าวการเมือง