ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/219139
ภายใต้แรงกดดันเสียดทานจากรอบทิศที่นับวันหนักหน่วงรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หลัง 2 ปี ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศทำให้การบริหารประเทศเกิดอุปสรรคไม่ราบรื่น จนคสช.ต้องพลิกแพลงปรับยุทธวิธีแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ที่เป็นจริงโดยใช้ทั้งลูกล่อลูกชนและทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง
ในระยะแรกหลังยึดอำนาจ คสช.ใช้กฎเหล็กและไม้แข็งจัดการกับขบวนการระบอบทักษิณที่พยายามป่วนเมืองโดยนำไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร และห้ามผู้ที่จงใจเคลื่อนไหวป่วนเมืองซ้ำซากเดินทางออกนอกประเทศ รวมทั้งการห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สร้างความระส่ำระสายในบ้านเมือง แต่ช่วงหลังคสช.ได้ทยอยคลายกฎเหล็กเริ่มจากการเปิดเวทีให้พรรคการเมืองต่างๆ และนักเคลื่อนไหวทุกสีทุกกลุ่มแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ห้ามพวกที่เคลื่อนไหวป่วนเมืองซ้ำซากจนถูกหมายหัวเดินทางออกนอกประเทศ รวมทั้งเปลี่ยนสถานที่ปรับทัศนคติจากเดิมที่ใช้ค่ายทหารมาเป็นศาลากลางจังหวัดหรือสถานีตำรวจแทนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
แต่เป้าหมายที่แท้จริงของคสช.ก็คือการลดแรงกดดันเสียดทานทั้งจากภายในและภายนอกประเทศเพื่อขจัดอุปสรรคและทำให้คสช.และรัฐบาลมีสมาธิทุ่มเทให้กับการเดินหน้าปฏิรูปประเทศได้อย่างสะดวกราบรื่นมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการขจัดจุดอ่อนสร้างความชอบธรรมให้กับคสช.และรัฐบาล
แม้คสช.จะคลายกฎเหล็ก แต่ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ก็ส่งสัญญาณปรามเหล่านักเลือกตั้งและขบวนการป่วนเมืองระบอบทักษิณ รวมทั้งเหล่าข้าราชการเสื้อแดงหรือข้าราชการประเภทนกสองหัวเอาตัวรอดที่ทำตัวเกียร์ว่างไม่สนองนโยบายหรือที่เลวร้ายคือวางยาบ่อนทำลายรัฐบาลโดยคิดว่า อำนาจรัฐปัจจุบันภายใต้คสช.เหลือน้อยลงทุกขณะและในที่สุดกำลังจะพ้นจากอำนาจ ขณะที่อำนาจใหม่โดยนักการเมืองกำลังจะเข้ามาแทนที่หากการเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมปในปีหน้า
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณปรามว่าตราบใดที่บ้านเมืองยังไม่สงบ คสช.ก็จะอยู่ต่อไปโดยกล่าวในการเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมประเทศสมาชิกกลุ่มจี 77 เมื่อไม่กี่วันก่อน ขณะเดียวกันผู้นำไทยยังกล่าวต่อตัวแทนจากนานาประเทศที่เข้าร่วมประชุมและเหมือนเป็นการส่งสัญญาณสอนมวยไปยังชาติมหาอำนาจและนานาประเทศที่พยายามกดดันไทยโดยยัดเยียดให้นำประชาธิปไตยแบบตะวันตกมาใช้แก้ปัญหาทางการเมืองในประเทศต่างๆ รวมทั้งของไทย ทั้งๆ ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประชาธิปไตยในหลายประเทศเป็นประชาธิปไตยแบบจอมปลอมที่ล้มเหลว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เปรียบว่า จะให้ใส่เสื้อตัวเดียวกันทั้งโลกคงเป็นไปไม่ได้ เพราะปัญหาประชาธิปไตยในแต่ละประเทศแตกต่างกัน การแก้ปัญหาจึงต้องใช้วิธีการที่เหมาะสมของแต่ละประเทศ
ทั้งนี้แม้คสช.จะผ่อนคลายกฎเหล็กต่างๆ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่ทำให้ขบวนการระบอบทักษิณลดราวาศอกในการเคลื่อนไหวป่วนเมืองเพื่อบ่อนทำลายคสช.และรัฐบาลที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการปฏิรูปประเทศและหวังฟื้นระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง และที่เป็นเป้าหมายสำคัญเฉพาะหน้าสำหรับระบอบทักษิณ ก็คือการช่วยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นักโทษหนีโทษจำคุกคดีทุจริต พ้นผิด
แม้ระบอบทักษิณยังพยายามป่วนเมือง แต่ความได้เปรียบยังอยู่ในมือคสช.ซึ่งคุมอำนาจไว้ในมือ ซึ่งหากผ่อนคลายกฎเหล็กแล้วบ้านเมืองยังเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย โดยเฉพาะหากมีเหตุการณ์รุนแรงช่วงก่อนการเลือกตั้งก็ถือเป็นความชอบธรรมของคสช.ที่จะใช้อำนาจเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ
และนั่นอาจเป็นปัจจัยที่จะนำไปสู่คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ส่งสัญญาณเตือนไว้ก่อนแล้วว่าหากบ้านเมืองยังไม่สงบ คสช.ก็ยังจะอยู่ต่อไป
ทีมข่าวการเมือง