ทำตามรัฐแนะ นาเผือกระทม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/606069

 

ภัยแล้งปีนี้ สาหัสแค่ไหน ไม่ต้องดูอะไรมากดูจากหลายจังหวัด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวดัง ถึงกับออกประกาศมาตรการประหยัดน้ำ ในช่วงเล่นสงกรานต์กันอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ยกตัวอย่าง เทศบาลนครอุบลราชธานี ประกาศลดวันและเวลาเล่นน้ำในงานประเพณีสงกรานต์กับเทศกาลอาหารไทย-อินโดจีน ช่วงวันที่ 12-15 เมษายนนี้ โดยเปิดให้เล่นน้ำได้เฉพาะวันที่ 13-15 เมษายน 2559 บนถนนดอกไม้และสายน้ำ ช่วงถนนราชบุตร ตัดกับพโลชัย รวมระยะทาง 300 เมตร

ขณะที่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น รณรงค์ประหยัดน้ำในช่วงสงกรานต์ ด้วยการแจกขวดน้ำแบบเจาะรู เพื่อให้ “ซิดกัน” (สลัดน้ำแรงๆ) แทนการสาด และยกเลิกการจ่ายน้ำบริเวณถนนข้าวเหนียว โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้ประมาณ 400,000 ลิตร ในช่วงสงกรานต์ปีนี้

เช่นเดียวกับที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งเตรียมจัดงาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่” ประจำปี 2559 ช่วงวันที่ 13-15 เมษายน 2559 แม้จะไม่ลดจำนวนวันเล่นน้ำสงกรานต์ แต่ทางเทศบาลจะประหยัดน้ำ โดยงดสูบน้ำออกจากคูเมือง ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 50,000 ลูกบาศก์เมตร โดยนำน้ำในคูเมือง ที่มีอยู่เดิมไปบำบัดใหม่ และยังห้ามขายถังขนาดใหญ่ และให้เน้นการใช้ปืนฉีดน้ำแทนการสาดน้ำ

อย่าว่าแต่เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ หลายพื้นที่มีน้ำเหลือให้เล่นสงกรานต์กันแบบจำกัดจำเขี่ย เจ้าของเรือกสวน ไร่ นา หลายแห่ง นอกจากไร้อารมณ์จะเล่นสงกรานต์ ยังตกอยู่ในภาวะเคร่งเครียดไปตามๆ

เพ็ญศรี ชมแค เกษตรกรเจ้าของนาเผือก 7 ไร่ ที่หมู่ 9 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โอดครวญอยู่หน้าแปลงเผือกวัย 4 เดือน ที่ขอบใบกำลังไหม้หงิกงอ ยืนต้นรอน้ำมาหล่อเลี้ยง

“อุตส่าห์ทำตามที่รัฐบาลแนะ ให้เลิกปลูกข้าว หันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย ฉันก็เชื่อ ทำตามทุกอย่าง แล้วไง นี่จะเล่นไม่ปล่อยน้ำสักหยดมาให้กันเลยหรือ ถ้าเล่นยังงี้ ปลูกอะไรก็ตายเกลี้ยง”

เพ็ญศรีบอกว่า ก่อนหน้านี้เธอมีอาชีพทำนาปลูกข้าว ระยะหลังเห็นว่าเริ่มแล้งจัดขึ้นเรื่อยๆ น้ำที่จะใช้ทำนามีไม่เพียงพอ ประกอบกับต้นทุนปลูกข้าว นับวันยิ่งสูงขึ้น แต่กลับขายข้าวได้ราคาถูกลง เธอจึงลองเปลี่ยนมาทดลองปลูกเผือก ซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยกว่าทำนา ตามที่ทางการแนะนำ

เธอว่า เผือกมีอายุการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 6-8 เดือน เพ็ญศรีเริ่มลงมือปลูกเผือกรุ่นแรกไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จำนวน 4 ไร่ ช่วงนั้นยังพอดึงน้ำตามลำคลอง ซึ่งทางชลประทานปล่อยมาให้ สูบเข้าไปหล่อเลี้ยงในแปลงปลูกเผือกได้บ้าง

ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ยังพอมีน้ำให้ใช้ได้อยู่ เธอจึงลงปลูกเผือกรุ่นใหม่ไว้อีก 3 ไร่ เพื่อทดแทนการขาดรายได้จากการทำนา เผือกที่ลงปลูกไว้ล่าสุด เพิ่งจะมีอายุเพียงแค่เดือนเดียว แต่กลับต้องขาดน้ำอย่างหนักมาแล้วถึง 1 สัปดาห์เต็ม เธอว่าไม่ต่างกับทารกขาดนมแม่ อาการร่อแร่เริ่มน่าเป็นห่วง

“ยังดีว่า ฉันพอมีน้ำในบ่อหลังบ้าน กับน้ำที่ขังไว้ในร่องสวนมะพร้าวเหลืออยู่นิดหน่อย เลยรีบสูบไปหล่อเลี้ยงในแปลงปลูกเผือก ไม่งั้นคงต้องขุดเอาขึ้นมาขายทั้งที่หัวยังลีบ ถูกกดราคาย่อยยับป่นปี้ หรือถ้าขุดขึ้นมาไม่ทันก็ตายเรียบ”

เพ็ญศรีอธิบายว่า ปกติวงรอบในการปลูกเผือกแต่ละรุ่น จะใช้เวลาขั้นต่ำประมาณ 6-8 เดือน แต่หากมีเหตุฉุกเฉิน จำเป็นต้องขุดเผือก ซึ่งมีอายุเพียงแค่ 4 เดือนขึ้นมาขายก่อน ก็สามารถทำได้ แต่ก็มีสภาพคล้ายทารกที่คลอดก่อนกำหนด สภาพร่างกายยังไม่พร้อมเต็มที่ เหมือนกับทารกที่คลอดครบตามอายุครรภ์ปกติ

นั่นหมายถึง เธอต้องเจอกับสถานการณ์ตึงเครียดที่ตามมา

“ปกติเผือกที่มีขนาดหัวหนักตั้งแต่หัวละ 8 ขีดขึ้นไป เวลานี้ราคารับซื้ออยู่ที่กิโลฯละ 53 บาท แต่ถ้าเป็นเผือกที่จำเป็นต้องรีบขุดขึ้นมาขายก่อนกำหนด เช่น อายุ 4 เดือน หนักหัวละแค่ 2 ขีด รีบขุดขึ้นมาขายเพราะกำลังขาดน้ำใกล้ตาย ราคาจะร่วงลงมาเหลือแค่กิโลฯ ละ 18-25 บาท แล้วแต่ความสวย”

เพ็ญศรีบอกว่า เนื่องจากเมื่อเผือกเริ่มขาดน้ำ รากจะเริ่มเสียหาย ลำต้นหยุดการเติบโต เกิดการชะงักงันทันที โดยสังเกตได้จากขอบใบเริ่มแห้ง ไหม้เกรียม เธอจึงฝากวิงวอนไปยังทางการ

“ฉันอุตส่าห์ทำตัวเป็นเกษตรกรที่ดี เชื่อฟัง ทำตามที่แนะนำแล้วทุกอย่าง ไม่ให้ทำนา ก็ไม่ทำ หันมาทำเผือก ที่ใช้น้ำน้อยกว่า จึงไม่ควรทิ้งขว้างกันแบบนี้ เล่นหยุดส่งน้ำ ไม่ยอมปล่อยมาเจือจานกันบ้างเลย ความเสียหายนี้ใครจะรับผิดชอบ”

ฉวีวรรณ สวนทับทิม หรือ “แหวว” เกษตรกรเจ้าของนาเผือก 5 ไร่ ถัดไปไม่ไกลกันนักกับแปลงเผือกของเพ็ญศรี มาในอารมณ์เดียวกันกับเพ็ญศรี เธอว่า

หลังจากเผือกที่ปลูกไว้เริ่มขาดน้ำ อาการแรกที่ออกคือ ขอบใบของต้นเผือกเริ่มไหม้ กาบเริ่มล้ม และหัวเผือกที่อยู่ใต้ดินเริ่มลีบ

“ฉันก็เป็นอีกคนที่ทำตามนโยบายของรัฐบาลทุกอย่าง เขาให้ปลูก พืชผักสวนครัว ปลูกเผือก แทนทำนา เราก็ทำตาม แล้วยังไง ผักที่ปลูกไว้ ค่อยๆทยอยตายเกลี้ยง นี่เผือกก็เริ่มออกอาการร่อแร่แล้ว”

เมื่อถูกถามว่า เหตุใดจึงไม่ขุดบ่อบาดาลเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนในบางพื้นที่ เธอว่าบ่อบาดาล กับน้ำบาดาลที่สูบขึ้นมาได้แต่ละแห่ง ใช่ว่าจะมีคุณภาพดีเหมือนกันหมด บางพื้นที่ขุดขึ้นมาเจอน้ำเปรี้ยวบ้าง น้ำเค็มบ้าง ไปเอามารดต้นไม้ ยิ่งตายเร็วเข้าไปอีก นอกเสียจากขุดขึ้นมาแล้วมีบ่อธรรมชาติ สำรองไว้พักน้ำเพื่อลดความเปรี้ยว หรือลดความเค็มลงก่อนสักระยะ จึงค่อยสูบไปรดต้นไม้

“แถวลาดหลุมแก้ว โดยมากสภาพพื้นที่เป็นดินเปรี้ยว มีความเป็นกรดสูง ไม่ค่อยมีใครนิยมขุดบ่อบาดาลขึ้นมาใช้ ต้องพึ่งพาน้ำจากแม่น้ำ ลำคลองเป็นหลัก”

ดูเหมือนยามนี้ จำเลยหัวใจของชาวนาเผือก แถบลาดหลุมแก้ว อยู่ที่ทางการซึ่งหมายถึงกรมชลประทาน ผู้มีหน้าที่ในการระบายหรือสั่งงดการระบายน้ำไปยังแม่น้ำลำคลองต่างๆ แต่เมื่อตามหาตัวคนจากกรมชลฯมาจับเข่าคุยด้วยไม่ได้ จึงต้องเอาคนจากกระทรวงเดียวกัน มาจับเข่าชี้แจงเกษตรกรไปพลางก่อน

จรัล ซื่อสัตย์ รักษาการแทนเกษตรอำเภอ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ออกไปอธิบายกับเกษตรกรนาเผือกในพื้นที่รับผิดชอบของตนให้ฟังว่า เขาได้รับแจ้งว่า น้ำในเขื่อนหลักมีไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถระบายลงมาให้ใช้ทำการเกษตรได้

“ตอนนี้ความหวังขึ้นอยู่กับฝนอย่างเดียว ทางชลประทานแจ้งมาล่าสุดว่าจะปล่อยน้ำมาให้อีกระลอก ในวันที่ 5 เมษายนนี้ เพื่อช่วยรักษาระบบนิเวศ พอให้มีน้ำนอนคลอง ไม่ให้คลองแห้งจนถนนที่ขนานกับคลองทรุดตัวพัง แต่ไม่ได้ปล่อยมาเพื่อให้ใครสูบเอาไปใช้ทำการเกษตร”

จรัลบอกว่า แต่ในความเป็นจริง ทันทีที่เกษตรกรส่วนใหญ่รู้ข่าวว่าจะมีการปล่อยน้ำลงมาเพื่อรักษาระบบนิเวศ พวกเขาไม่สนใจ รีบไปสูบน้ำเข้ามาใช้ในที่ไร่ ที่นาของตน

“เรารู้ปัญหาความทุกข์ร้อนของเกษตรกรดี แต่อย่างที่บอก เราไม่มีอำนาจไปสั่งให้ใครห้ามสูบน้ำได้ เกษตรกรเองก็มีทั้งคนที่เดือดร้อนจริง และไม่เดือดร้อน พอปล่อยน้ำไปช่วยคนที่เดือดร้อนจริง ก็ถูกคนที่ไม่เดือดร้อน แต่เห็นแก่ได้ ชิงแย่งสูบน้ำตัดหน้าเข้าไปใช้ในไร่นาตัวเองก่อน ตราบใดที่เกษตรกรยังจัดระเบียบ หรือคุยกันเองไม่รู้เรื่อง ปัญหาก็ไม่จบ”

“ส่วนคนที่ไม่เข้าใจ ก็ต่อว่าต่อขานว่าน้ำในแม่น้ำมีออกเยอะแยะ ทำไมถึงไม่ปล่อยเข้าไปให้ใช้บ้าง เขาหารู้ไม่ว่า ที่เห็นเยอะแยะในแม่น้ำนั้น เป็นน้ำที่มีค่าความเค็มเกินมาตรฐาน จากน้ำทะเลที่หนุนสูง ขืนปล่อยไปให้ใช้ พืชอาจน็อกตายเกลี้ยง” จรัลทิ้งท้าย.

 

Leave a comment