ฝนผิดนัด..เลื่อนนาปี 10 อันดับพืชผักทำเงินรอฝน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 12 เม.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/604439

 

ปีนี้ฤดูฝน ฤดูเริ่มต้นทำนาปี ที่เคยมากลางพฤษภาคม อาจต้องเลื่อนไปอีก 2-3 เดือน…ช่วงระหว่างรอฝนทำนาปี พี่น้องเกษตรกรจะทำมาหากินอะไรดี ถึงจะมีรายได้พอเลี้ยงครอบครัว

ถ้าพอจะหาน้ำได้ เมื่อวาน ผู้รู้จากบริษัท เจียไต๋ จำกัด ได้บอกวิธีการเตรียมเนื้อเตรียมตัว เตรียมที่นาเป็นแปลงปลูกพืชผัก ทำเล็กๆแค่ 1 งานเพื่อจะได้ไม่ลำบากในการหาน้ำมากนัก จะช่วยให้มีรายได้ 11,250-75,000 บาท ต่อ 1 ฤดูกาลเพาะปลูกเลยทีเดียว…แล้วพืชผักอะไรล่ะที่ทำเงินได้ขนาดนั้น

วันนี้ขอจัดอันดับ 10 ชนิดพันธุ์พืชผัก ซดน้ำไม่มาก ทนแล้งพอได้…ที่สำคัญทำเงินได้เร็ว ในช่วงระหว่างรอฝนทำนาปี

เริ่มกันที่อันดับ 10…แตงกวา


“ปกติแตงกวา แตงท่อน แตงร้าน ปลูกได้ทุกฤดู เพราะความต้องการของตลาดมีทั้งปี แต่ปีนี้ร้อนแล้งจัดและต้องมาปลูกรอฝน ที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไรแน่ ฉะนั้นตอนนี้ แตงท่อน แตงร้าน เราต้องมองข้าม หันมาปลูกแตงกวาลูกเล็กจะดีกว่า เพราะใช้น้ำน้อย”

กัญญา รอตเสียงล้ำ ผู้จัดการฝ่ายปรับปรุงพันธุ์พืช บริษัท เจียไต๋ จำกัด บอกว่า การปลูกแตงกวาในช่วงนี้ 1 ไร่ จะได้ผลผลิตประมาณ 5 ตัน ราคาขายหน้าสวน ณ เดือน มี.ค.59 อยู่ที่ กก.ละ 9 บาท จะทำรายได้ประมาณ 45,000 บาท…ถ้าปลูกแค่ 1 งาน จะทำเงินได้ 11,250 บาท หักต้นทุนค่าใช้จ่าย (ไม่รวมค่าแรง) จะมีกำไรเหลือ 8,700 บาท (ถ้าราคาหน้าสวนยังอยู่ที่ กก.ละ 9 บาท ไม่ขยับขึ้นตามภาวะภัยแล้ง)

อันดับ 9…บวบหอม ปลูกแค่ 1 งาน ระยะเวลา 110 วัน จะได้ผลผลิต 1 ตัน ถึงจะไม่มากนัก แต่ราคา ขายหน้าสวนอยู่ที่ กก.ละ 13 บาท ทำให้มีรายได้ประมาณ 13,000 บาท หักต้นทุนจะเหลือกำไร 10,500 บาท


อันดับ 8…บวบงู ปลูกแค่ 1 งาน ให้ผลผลิตสูงถึง 1.5 ตัน ประกอบกับราคาขายหน้าสวนเดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ กก.ละ 11 บาท ทำให้มีรายได้ 16,500 บาท หักต้นทุนจะเหลือกำไร 14,000 บาท ต่อรอบการผลิต 170 วัน


อันดับ 7…มะระขี้นก แม้ผลผลิตต่อไร่จะแค่ 5ตัน ราคาขายหน้าสวนเดือนที่แล้วอยู่ที่ กก.ละ 16 บาท ปลูกแค่ 1 งาน ทำรายได้ถึง 20,000 บาท หักต้นทุนแล้วเหลือกำไร 16,250 บาท


อันดับ 6…มะเขือเทศสีดา รอบการผลิตอยู่ที่ 150 วัน ได้ผลผลิต 2 ตันต่อ 1 งาน ราคาขายหน้าสวน กก.ละ 10 บาท จึงสร้างรายได้ถึง 20,000 บาท เท่ามะระขี้นก แต่ต้นทุนถูกกว่า ทำให้ได้กำไร 17,000 บาท


อันดับ 5…แตงโมเนื้อเหลือง ความจริงแตงโมเนื้อแดงก็ปลูกได้ แต่ด้วยราคาหน้าสวนแตงโมเนื้อเหลืองได้ราคาดีกว่า เดือนที่แล้ว กก.ละ 11 บาท (เนื้อแดง 8 บาท) และเมื่อนำมาคำนวณกับผลผลิต 7.5 ตันต่อไร่…ปลูกแค่ 1 งาน แตงโมเนื้อเหลืองจะทำได้ถึง 20,625 บาท หักต้นทุนแล้วจะเหลือกำไร 18,375 บาท


ส่วนอันดับ 1-4 เป็นพืชพันธุ์ชนิดไหน…ติดตามพรุ่งนี้.

ชาติชาย ศิริพัฒน์

 

Leave a comment