ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 26 เม.ย. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/610694

เมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกแบบทั่วไปจุลินทรีย์ทนเค็มทำให้รากยาวขึ้นอย่างชัดเจน
ดร.ฉวีวรรณ เหลืองวุฒิวิโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน กรมพัฒนาที่ดิน เผยถึงการวิจัยนำจุลินทรีย์ทนเค็มมาใช้ประโยชน์ว่า ได้เริ่มลงมือทำการวิจัยดังกล่าวมาได้ราว 1 ปีเศษ มีความก้าวหน้าไปมาก คาดว่าไม่นานนี้ จะมีผลงานเป็นรูปธรรมให้เกษตรกรนำไปใช้ได้ เป็นงานวิจัยที่เริ่มจากการเก็บจุลินทรีย์จากพื้นที่ดินเค็มหลากหลายพื้นที่ นำมาเลี้ยงในอาหารเลี้ยงเชื้อในห้องปฏิบัติการ เติมโซเดียมคลอไรด์ลงไปในเชื้อ เพื่อคัดแยกจุลินทรีย์ตัวที่ไม่ทนความเค็มออกไป ให้เหลือแต่เชื้อที่ทนต่อความเค็มเท่านั้น จากการทดลองทำให้ได้จุลินทรีย์ที่เกิดประโยชน์ในดินเค็ม 4 กลุ่มหลัก ได้แก่
จุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต เป็นจุลินทรีย์ที่สามารถแปรสภาพสารอนินทรีย์ เปลี่ยนรูปแร่ธาตุในดินที่ไม่เป็นประโยชน์ ให้อยู่ในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เช่น หินฟอสเฟต แร่โพแทสเซียมเฟลด์สปาร์ รวมทั้งธาตุอาหารที่ถูกตรึงในดิน โดยการปลดปล่อยกรดอินทรีย์ละลายฟอสเฟตให้พืชนำไปใช้ประโยชน์เป็นปุ๋ยได้

จุลินทรีย์ผลิตฮอร์โมน สามารถผลิตฮอร์โมน ออกซิน จิบเบอเรลลิน ไซโตไคนิน ช่วยกระตุ้นการงอกของเมล็ดและรากพืช เร่งการเจริญเติบโตของพืช ส่งเสริมการออกดอก และเพิ่มการติดผล ได้แก่ อะโซสไปริลลัม อะโซโตแบคเตอร์ และยีสต์ เป็นต้น
จุลินทรีย์ไรโซเบียม ช่วยตรึงก๊าซไนโตรเจนในอากาศให้อยู่ในรูปสารประกอบไนโตรเจน ซึ่งพืชนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยตรง สามารถทำให้ไรโซเบียมในรากถั่วบางชนิดสามารถทำงาน ร่วมกับไรโซเบียมในรากถั่วอีกชนิดได้ ต่อไปการปลูกถั่วทุกชนิดจะมีไรโซเบียมที่ช่วยปรับปรุงได้เป็นอย่างดี ไม่เหมือนปัจจุบันที่มีถั่วแค่บางพันธุ์เท่านั้นที่ไม่มีไรโซเบียมเพิ่มให้ดิน

จุลินทรีย์ในกลุ่มเชื้อราไมคอร์ไรซา เป็นจุลินทรีย์ที่สร้างเส้นใยรอบรากพืช อาศัยอยู่ร่วม กันกับพืชแบบพึ่งพาอาศัยกันและกัน รากที่มีจุลินทรีย์ กลุ่มนี้ อาศัยอยู่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวรากให้ยาวกว่ารากเดิมเกือบ 10 เท่า ทำให้รากหากินได้ไกลขึ้น หาธาตุอาหารได้มากขึ้น ส่งผลให้พืชมีความแข็งแรงทนเค็มมากขึ้น
ดร.ฉวีวรรณ กล่าวว่า การวิจัยจุลินทรีย์ 4 ชนิดดังกล่าว สามารถนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชีวภาพเพื่อประโยชน์ ในการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มได้เป็นอย่างดี รวมถึงนำไปใช้เพิ่มธาตุอาหารเสริมการเจริญเติบโตของพืชได้ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ลุ่ม พื้นที่ดอน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี.