ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/226400
วันพุธ ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงจะผ่านการลงประชามติวันที่ 7 ส.ค.นี้หรือไม่ก็ตาม ผู้ที่ถือไพ่คุมเกมกำหนดทิศทางประเทศก็ยังคงเป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะหากร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำก็ต้องยกร่างรัฐธรามนูญกันใหม่ซึ่งก็ยังเป็นไปตามเกมของคสช. แต่ที่บรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายวิตกก็คือ คสช.ยังอุบไต๋ไม่ยอมเผยว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องยกร่างใหม่ หากถูกคว่ำจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะอาจใช้ยาแรงเข้มข้นมากกว่าเดิมหรือดีไม่ดีอาจทำให้ คสช.อยู่ยาว
แต่สถานการณ์ที่ต้องจับตาก็คือการเดินเกมป่วนของขบวนการเพื่อแม้วนับจากนี้ไปจะดุเดือดร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งก่อนและหลังการลงประชามติ โดยเป้าหมายนอกจากคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงแล้ว ที่สำคัญกว่าก็คือการหาข้ออ้างสร้างสถานการณ์สุมไฟให้เกิดวิกฤติ เพื่อทำให้คสช.พ้นจากอำนาจโดยเร็วที่สุดโดยมีตัวเร่งก็คือ คดีโครงการรับจำนำข้าวที่งวดเข้าไปทุกขณะทั้งคดีทางแพ่งและทางอาญา
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ส่งสัญญาณว่าจะพยายามเร่งรัดคดีโครงการรับจำนำข้าวในส่วนที่อยู่ในอำนาจของรัฐบาลให้ได้ข้อยุติภายในปีนี้ ซึ่งล่าสุดมีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามในหนังสือบังคับทางปกครองเพื่อให้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ และพวกรวม 6 คน ชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินในคดีการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีลอตแรกเป็นมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท
ที่สำคัญคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดซึ่งเป็นจำเลยคนสำคัญมีแนวโน้มที่จะถูกฟ้องให้ชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินจากคดีโครงการรับจำนำข้าวอาจเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท
แต่ชะตากรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือโทษทางอาญามีสิทธิติดคุกโดยไม่รอลงอาญาฐานกระทำผิดต่อหน้าที่โครงการรับจำนำข้าวและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นมูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งคดีนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งนับถอยหลังใกล้ชี้ชะตาเข้าไปเรื่อยๆ
ชะตากรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องที่ นายทักษิณชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก วิตกมากและจะไม่ยอมทนเห็นน้องสาวซึ่งเป็นหุ่นเชิดของตัวเองต้องเดินเข้าคุกอย่างเด็ดขาด จึงต้องทำทุกวิถีทางทำให้คสช.พ้นจากอำนาจโดยเร็วที่สุด ด้วยการสร้างสถานการณ์ให้เกิดวิกฤติความรุนแรงเปิดทางให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาไกล่เกลี่ยด้วยการเจรจาต่อรองเพื่อยุติปัญหา ซึ่งเป้าหมายของ นายทักษิณ ที่พยายามต่อรองมาตลอดหากจะยุติปัญหาความขัดแย้งก็คือต้องเซตซีโร่นั่นคือลบล้างโทษความผิดของตัวเองและพวกโดยใช้การนิรโทษกรรมทุกคนทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางการเมืองนับตั้งแต่ก่อนรัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2549 เป็นข้ออ้างบังหน้า
แต่ข้อเสนอเซตซีโร่ของนายทักษิณดูเหมือนจะถูกปิดประตูสนิทเพราะพล.อ.ประยุทธ์ส่งสัญญาณชัดเจนมาตลอดว่ากฎหมายต้องเป็นกฎหมายคนทำผิดต้องรับโทษ เพราะฉะนั้น แนวโน้มสถานการณ์มีแต่จะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านการลงประชามติเพราะเป้าหมายสำคัญของขบวนการเพื่อแม้วคือช่วยน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้พ้นชะตากรรมเป็นด้านหลัก ส่วนเรื่องคว่ำร่างรัฐธรรมนูญปราบโกงเป็นด้านรอง
ทีมข่าวการเมือง
