ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ทีมข่าวการเมือง 10 มิ.ย. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/635619

มองในมุมมองพุทธศาสนา ก็น่าจะเป็นเรื่องของ “การกระทำ” กรรมดี-กรรมร้ายที่ก่อกันไว้
กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ อดีต รมว.เกษตรฯ และนายวิทยา เทียนทอง อดีตเลขานุการ รมว.เกษตรฯ
ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และความผิดตามกฎหมายฮั้วประมูล โครงการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์กระทรวงเกษตรฯ
สั่งจำคุก 2 อดีตนักการเมืองคนละ 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา
2 บิ๊กเนมการเมืองสูญสิ้นอิสรภาพ
เรียกว่า เมื่อผลสรุปคดีนี้ออกมา คงทำให้นักการเมืองน้อยใหญ่ โดยเฉพาะประเภทที่มีชนักคดีความติดตัว ได้เวลาสะบัดร้อนสะบัดหนาว
ระทึกขวัญไปตามๆกัน
แล้วก็ไม่ใช่คดีแรกที่นักการเมืองใหญ่ต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้ ที่ผ่านมาเคยมีผู้ที่ต้องถูกจำคุก และหลบหนีคดี ไม่ไปรับฟังคำพิพากษา ต้องจรลีไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศกันหลายราย
ยังหาทางกลับบ้านไม่ได้
หนำซ้ำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กฎกติกาบ้านเมืองฉบับ “ปราบโกง” หากผ่านประชามติ วางเงื่อนไขสารพัด ปิดทางคนทุจริตเข้าสู่การเมือง
เส้นทางคัมแบ็กปิดตายไปเลย
โดยเฉพาะซุปเปอร์บิ๊กเนมอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่ต้องหลบหนีโทษจำคุกไปต่างประเทศ และยังมีอีกสารพัดคดีติดตัว
จากคดีนี้คง “ยิ่งหนาว” เข้าไปใหญ่
แถมเครือข่ายลูกทัพ ติดชนักคดีเป็นหางว่าว ทั้งอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี
รวมถึงคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ในคดีสลายม็อบพันธมิตรฯ นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายยังลุ้นชนักเกี่ยวโยงคดียักยอกเงินธนาคารกรุงไทย และ “อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ในกรณีชดใช้ความเสียหายและคดีอาญาโครงการจำนำข้าว
เมื่อ “ทักษิณ” รู้แล้ว “ยิ่งหนาว” ปฏิกิริยาตอบสนองจะเป็นอย่างไร
หลังบู๊ใส่อำนาจพิเศษเป็นพักๆ แล้ว “อดีตนายกฯทักษิณ” ก็เก็บตัวเงียบไป ในห้วงกระบวนการประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยังไม่ส่งสัญญาณชัด
“นายใหญ่” เอาไงแน่
จนลูกทีมขุนทัพต้องลุยสู้กันไปด้วยความระแวง เพราะเมื่อสะบัดตีธงไม่แรง ประกอบกับยุทธวิธี “นายใหญ่” ที่ใช้มาจนรับรู้กัน “รบไป–เจรจาไป” หากถึงเวลาหาช่องเคลียร์ได้
หันมา “หักธง” ทิ้งดื้อๆก็มี
ลูกข่ายทัพ “ฝ่ายต้าน” ก็เลยต้องเล่นกันไปตามบทบาท
เพียงแต่เมื่อถึงคิวบิ๊กเนมการเมืองในเครือข่ายทยอยประสบชะตากรรมด้านร้าย ตรงนี้ก็อาจทำให้ “ทักษิณ” ต้องหาทางเลี่ยงเข้าโซนอันตรายให้คนในเครือข่าย
อาจขยับสู้ “หนาว” ในดีกรีที่เข้มข้นขึ้น เพิ่มน้ำหนักโหมดต่อรอง
แล้วก็บังเอิญที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ผู้ถือดุลอำนาจพิเศษ เพิ่งออกมาระบุถึงสถานการณ์ในบ้านเมือง ถ้ายังเกิดเหตุการณ์ “ไม่สงบ” ก็ยังไม่ไปไหน
เปิดข้อมูลข่าวกรองส่วนตัว ทราบว่ามีฝ่ายคิดแผน “กระทำเหตุเลวร้าย”
ชนิด “รู้แล้วจะหนาว”
ขมวดปมจากคิว “รู้แล้วยิ่งหนาว” ของ “ทักษิณ” กับรายการ “รู้แล้วจะหนาว” ของ “บิ๊กตู่” แน่นอนว่า ทั้งสองฝ่ายย่อมต้องเตรียมแผนแก้สถานการณ์
จึงน่าจับตา 2ต้นขั้วอำนาจจะหาทางแก้ “หนาว” กันอย่างไร
ในจังหวะของประเทศไทย ยังอยู่ในภาวะสะบัดร้อนสะบัดหนาวรุนแรง.
ทีมข่าวการเมือง