องค์กรสงฆ์โยนกลองไปมา ซื้อเวลาจับสึกธัมมชโย?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/223587

วันเสาร์ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

การที่มหาเถรสมาคม(มส.) ในการประชุมครั้งล่าสุดโดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ผู้ทำหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชและเป็นอาจารย์ของธัมมชโย เจ้าสำนักจานบินมีมติไม่รับปัญหาธัมมชโยไว้พิจารณาแล้วโยนปมเผือกร้อนให้สมเด็จพระพุทธชินวงศ์(สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลางไปตัดสินใจเอาเองว่าจะจับสึกธัมมชโยหรือไม่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการโยนกลองซื้อเวลา และสะท้อนความอ่อนแอขององค์กรสงฆ์

ธัมมชโย มีชนักปักหลังหลายข้อหาทั้งการถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ออกหมายจับข้อหาพัวพันฟอกเงินและรับของโจรคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แต่ ธัมมชโย และเหล่าสาวกพยายามขัดขวางและหลบเลี่ยงหมายจับ รวมทั้งข้อหาที่ถูกร้องให้จับสึกตามพระบัญชาของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ตั้งแต่เมื่อปี 2542 กรณีที่ยักยอกเงินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวและอวดอุตริมนุสธรรมเผยแพร่ลัทธิที่ขัดกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นการผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง

สำนักจานบินนั้นมีทรัพย์สินมหาศาลและมีสาวกทั่วประเทศจำนวนมาก และที่สำคัญ ธัมมชโย ยังเป็นศิษย์ของ สมเด็จช่วง จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีอิทธิพลเหนือองค์กรสงฆ์ในทุกระดับรวมทั้งมส. ตลอดจนพระเถระผู้ใหญ่ทั้งหลาย ทำให้ที่ผ่านมาองค์กรสงฆ์ถูกมองว่าคอยปกป้องช่วยเหลือ ธัมมชโย มาตลอด

ก่อนหน้าที่ มส.จะมีมติโยนเผือกร้อนกลับไปให้เจ้าคณะหนกลางเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด ทางรัฐบาลโดย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ซึ่งกำกับดูแลกรมดีเอสไอ และ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งดูแลเกี่ยวกับศาสนาได้หารือกับสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เพื่อให้เป็นคนกลางในการหารือกับมส.เพื่อหาข้อยุติปัญหาของ ธัมมชโย โดยต้องการให้สงฆ์แก้ปัญหาของสงฆ์ด้วยกันเอง แต่ในที่สุดมส.ก็โยนกลองปัญหาไปยัง สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ โดยอ้างมติของมส.ครั้งที่ 4/2544 วันที่ 9 ก.พ. 2544 เพื่อให้การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในกฎมส.และระเบียบมส.ดียิ่งขึ้น จึงให้เจ้าคณะใหญ่ทุกหนปฏิบัติพร้อมกับเจ้าคณะทุกระดับ ทุกกรณีให้เป็นที่ยุติในเขตปกครองแต่ละหน

ทั้งนี้ นายสมบัติ พิมพ์สอน รองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่าจากมติมส.ที่ออกมา พศ.จะไม่นำ
ปัญหา ธัมมชโย เข้าพิจารณาในที่ประชุมมส.อีกแล้ว เว้นเสียแต่จะมีการรายงานเพื่อทราบต่อที่ประชุม ซึ่งก็หมายความว่า มส.ปิดประตูพิจารณาปัญหา ธัมมชโย และโยนปัญหาพ้นตัวโดยจะพิจารณาก็ต่อเมื่อเจ้าคณะหนกลางพิจารณาจนได้ข้อยุติในปัญหาของ ธัมมชโย แล้วเท่านั้น

ที่สำคัญมติมส.ที่ออกมายังหมายความว่า ปัญหาของ ธัมมชโย ต้องไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในกระบวนการตรวจสอบตั้งแต่ระดับเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาคจนมาถึงเจ้าคณะหนกลางคือ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ซึ่งไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ทั้งๆ ที่ปัญหา ธัมมชโย ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนแม้แต่น้อยและเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานานหลายปีแล้ว

แต่ที่ ธัมมชโย ยังลอยนวลอยู่ได้และได้รับการปกป้องถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะอิทธิพลของสำนักจานบินที่ครอบงำองค์กรสงฆ์ทั่วประเทศในทุกระดับตั้งแต่ระดับบนสุดลงมา

หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2542 ธัมมชโย ซึ่งมีคดียักยอกทรัพย์และอวดอุตริมนุสธรรมเป็นชนักปักหลังก็ใช้วิธีระดมเหล่าสาวกมาเป็นโล่มนุษย์ป้องกันตัวเองจากการถูกจับกุม และด้วยอิทธิพลของสำนักจานบิน ในที่สุดทั้งฝ่ายสงฆ์และฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องยอมอ่อนข้อปล่อยให้อิทธิพลเหนือกฎหมายโดยยอมให้ ธัมมชโย มอบตัวที่วัดชนะสงครามแทนที่จะเป็นสถานีตำรวจโดยมีเงื่อนไขว่าต้องได้รับการประกันตัวทันทีโดยไม่ถูกจับสึกทำให้มีการตั้งคำถามว่า หรือเหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เพราะฉะนั้นเมื่อมส.โยนเผือกร้อนหนีปัญหาซื้อเวลาจึงต้องจับตาไปที่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ซึ่งจะเป็นบุคคลสำคัญที่จะพิสูจน์ว่ายึดมั่นในความถูกต้องทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยการดำเนินการขั้นเด็ดขาดปัญหาธัมมชโยในเวลาอันรวดเร็ว หรือจะยอมอ่อนข้อให้ธัมมชโยเหมือนเหตุการณ์เมื่อปี 2542 หรือจะซื้อเวลาด้วยการโยนปัญหากลับมาที่ฝ่ายบ้านเมืองอีกครั้ง

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment