อาการสะดุดเป็นระยะ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 15 มิ.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/639028

 

ช็อตระทึกแทรกงานอีเวนต์ประจำสัปดาห์

เหตุเกิดระหว่างที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เดินเยี่ยมชมกิจกรรมที่กระทรวงและหน่วยงานต่างๆนำมาแสดงที่บริเวณหน้าตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่จะขึ้นห้องประชุมคณะรัฐมนตรี

เมื่อจู่ๆก็มีสุภาพสตรีคนหนึ่งอายุ 27 ปี ได้บุกเข้าเกือบถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมตะโกนเสียงดัง ร้องขอความเป็นธรรม อ้างเรื่องที่ถูกโครงการคอนโดมิเนียม ปล่อยคลื่นรบกวน อ่านความคิดของสมองมนุษย์

ยื้อยุดฉุดกระชากกับหน่วย รปภ.นายกฯ โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้หันไปมองและถามขึ้นด้วยเสียงดังว่า “เกิดอะไรขึ้น ไปฟังเขามา ว่ามีเรื่องอะไร และอย่าไปทำอะไรเขา” และหลังจากนั้นยังได้เรียกผู้บัญชาการตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาลไปสอบถามสถานการณ์

และย้ำให้รับเรื่องร้องเรียนเดือดร้อนมา เดี๋ยวจะดูแลให้

เรื่องของเรื่อง มันสะท้อนภาพของความเป็น “จุดศูนย์กลางอำนาจ” ที่ต้องแบกรับภาระไม่ว่าเรื่องใหญ่ระดับประเทศไปจนถึงเรื่องเล็กระดับมโนสาเร่

ล้วนแต่มุ่งตรงถึง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้กุมอำนาจ “รัฏฐาธิปัตย์”

ถือดาบสารพัดนึก “มาตรา 44”

ประชาชนมอง “บิ๊กตู่” เป็นที่พึ่งในการแก้ปัญหา ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน

หนัก เบา ต้องแก้ไขได้ทุกเรื่อง

อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานะของผู้นำที่ประชาชนคาดหวังในตัวของนายกฯและหัวหน้า คสช. มุ่งให้ช่วยเหลือโดยไม่เลือกปมขี้หมูราขี้หมาแห้ง

แต่ในภาพใหญ่ มันก็มีปัญหาในเชิงบริหารที่มีจังหวะสะดุดให้เห็นเป็นระยะ

ดังปรากฏการณ์แบบที่ต้องมีการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เรื่องรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการแก้ปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)

ที่เป็นข่าวใหญ่โต รัฐบาลสั่งปิดเหมืองทองคำภายในสิ้นปีนี้

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับเองว่า จำเป็นต้องมีการเขียนในส่วนของเรื่องการดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมติ ครม.ในวันดังกล่าวเป็นการรับทราบและเห็นชอบในหลักการ ซึ่งก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย

ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นว่าตนเองใช้อำนาจของ ครม.ซึ่งจะมีผลทางธุรกิจ

ตามรูปการณ์ต้องย้อนกลับมาปิดช่องโหว่ เหมือนลืมคิดถึงผลสะเทือนที่ตามมา

แต่นั่นยังไม่เท่ากับเรื่องใหญ่กว่านั้น ประเมินจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุเลยว่า จะตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาเพื่อดูแลขับเคลื่อนการลงทุนในระบบบริหารจัดการน้ำ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค

โดยจะนั่งเป็นประธานด้วยตัวเอง

เบื้องต้นเลยมันก็เป็นการตอกย้ำสถานการณ์ ปัญหาการติดขัดในการเดินหน้าเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล มาตรการกระตุ้นการลงทุนที่ไม่เดินไปตามเป้าหมาย

อันเป็นผลมาจากการขบเหลี่ยมภายในของทีมเศรษฐกิจ

อย่างที่มีข่าวกระเส็นกระสายว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ไม่สามารถคุมเกมสั่งการให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจเล่นเป็นทีมเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคิวของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม หรือ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ต่างถือว่าเป็นสายตรงของ พล.อ.ประยุทธ์

ต่างคนต่างมีเส้น เล่นกันคนละคีย์ ทำให้ภาพรวมในการกู้เศรษฐกิจสะดุด

“บิ๊กตู่” เลยต้องกระโดดมากำกับเอง.

ทีมข่าวการเมือง

 

Leave a comment