ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/222396
วันเสาร์ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.
รัฐบาลระบอบแม้วไม่ว่ายุคไหนล้วนเต็มไปด้วยข่าวการทุจริตคอร์รัปชั่นโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างมโหฬาร โดยตัวอย่างเล็กๆ ล่าสุดก็คือกรณีที่องค์การคลังสินค้าตรวจสอบปริมาณมันเส้นคงคลังของรัฐตั้งแต่ยุครัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดระบอบแม้ว ในโกดังแห่งหนึ่งในจ.อุบลราชธานี พบว่า มันเส้นหายไป มูลค่าราว 66 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบกลโกงด้วยการนำแกลบใส่ถุงบิ๊กแบ๊กซุกซ่อนอยู่ภายในกองมันเส้น คิดเป็นมูลค่าอีกราว 10.5 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ รัฐดำเนินคดีทุจริตมันเส้นไปแล้ว 13 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐราว 295 ล้านบาท
นี่แค่ตัวอย่างจิ๊บๆ ผลงานทุจริตยุครัฐบาลระบอบแม้ว มิฉะนั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คงไม่สั่งยึดทรัพย์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก 46,000 ล้านบาท ฐานร่ำรวยผิดปกติโดยไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล
หนึ่งในตัวอย่างการทุจริตยุครัฐบาลแม้วเรืองอำนาจสุดขีดก็คือ การออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) ลดภาษีโทรศัพท์มือถืออันเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตระกูลชินคาดว่าเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ทั้งๆ ที่เป็นการออก พ.ร.ก.ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากการออก พ.ร.ก.จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อเกิดกรณีเร่งด่วนฉุกเฉินร้ายแรงต่อความมั่นคงหรือต่อเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น
อีกหลายตัวอย่างการทุจริตยุครัฐบาลระบอบแม้ว อาทิ การแก้ไขสัญญาสัมปทานระหว่างบริษัททีโอทีกับบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(เอไอเอส) อันเป็นธุรกิจมือถือของตระกูลชินในอดีตที่เอื้อประโยชน์ต่อเอไอเอสทำให้รัฐสูญเสียผลประโยชน์กว่า 70,000 ล้านบาท คดีจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกที่ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี จน นายทักษิณ ต้องหนีโทษความผิดออกนอกประเทศหลังส่อเจตนาพยายามติดสินบนศาลแล้วแต่ไม่สำเร็จ คดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานครทั้งๆ ที่กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร อยู่ในบัญชีกลุ่มธุรกิจเอ็นพีแอลที่มีฐานะย่ำแย่ซึ่งทำให้รัฐเสียประโยชน์มูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท ท่ามกลางเสียงร่ำลือว่าผู้มีอำนาจและคนในครอบครัวรับสินบน กรณีรัฐบาลแม้วสั่งให้ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก หรือเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่ามูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยไม่เสียดอกเบี้ยเพื่อให้รัฐบาลพม่านำไปซื้อสินค้าด้านการสื่อสารโทรคมนาคมจากธุรกิจเครือตระกูลชินอันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ที่เป็นคดีอื้อฉาวสุดอมตะนิรันดร์กาลก็คือโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ที่รอการตัดสิน
ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้ายคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ “หมอเลี้ยบ” อดีตรมว.ไอซีที ยุครัฐบาลแม้ว กับพวกในข้อหาอนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศเพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ต้องถือในบริษัทชินแซทแทลไลท์ จำกัด (มหาชน) จากไม่น้อยกว่า 51% เป็นไม่น้อยกว่า 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดทำให้รัฐเสียประโยชน์มหาศาล
จากพฤติการณ์ปูมหลังการทุจริตของรัฐบาลระบอบแม้วจึงอาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า ตรวจตรงไหนก็เจอโกงตรงนั้น
ทีมข่าวการเมือง
