ปราบโกงติดจรวด : คลอด“ศาลทุจริต”ล้างบางคอร์รัปชัน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ทีมข่าวการเมือง 20 มิ.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/641883

 

ปัญหาคอร์รัปชันเป็นมะเร็งร้ายเกาะกินประเทศไทยมายาวนาน

มีผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงทางสังคม เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน

ปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบได้ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของแผ่นดินเป็นจำนวนมาก

รัฐบาลประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างจริงจัง สอดรับกับการขับเคลื่อนของแม่น้ำสายต่างๆที่เฟ้นหากลไกปราบปรามการคอร์รัปชันให้อยู่หมัด ล่าสุดสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบหรือ “ศาลทุจริต” หรือ “ศาลปราบคอร์รัปชัน”

ซึ่งเป็นศาลในลักษณะเดียวกับศาลเหล่านี้ อาทิ ศาลภาษีอากร ศาลแรงงาน ศาลเยาวชนและครอบครัว แต่ไม่ใช่เป็นลักษณะของศาลที่มีอำนาจแยกต่างหากเหมือนศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่จะตั้งขึ้นมีทั้งศาลส่วนกลาง และอยู่ตามภาคต่างๆอีก 9 แห่ง

นับจากนี้เป็นต้นไปการบริหารจัดการคดีทุจริตและประพฤติมิชอบจะเป็นอย่างไร นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ ทีมข่าวการเมือง ว่า ต่อไปจะต้องออกกฎหมายวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งเป็นกฎหมายแฝดในการนำไปบังคับใช้คดี ขณะนี้อยู่ในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สนช. รัฐบาลคาดหมายจะให้ทันในวันที่ 1 ต.ค.2559

แต่จะต้องให้เวลากับศาลยุติธรรมในการดำเนินกระบวนการต่อ อาทิ หาสถานที่จัดตั้งศาล เพราะลำพังแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐในศาลอาญาที่ตั้งอยู่ อาจมีพื้นที่ไม่เพียงพอรองรับคดีทั้งประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

และจะต้องคำนึงถึงแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ในการเปิดทำการศาล เบื้องต้นจะเปิดศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบส่วนกลาง จะทำให้บรรดาคดีที่เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมดทั่วประเทศอยู่ในอำนาจของศาลนี้ จากนั้นเมื่อเปิดศาลภาคแล้วก็ไปยื่นฟ้องที่ศาลภาค

ขณะที่ปัญหาภายในจะต้องมองในช่วงระยะเวลาเปิดศาล โดยคำนึงถึงบุคลากรที่จะเป็นผู้พิพากษาพิจารณาคดีมาจากที่ใดบ้าง คุณลักษณะของผู้พิพากษาที่ขึ้นเป็นองค์คณะต้องเป็นผู้พิพากษามาแล้ว 10 ปี เพราะต้องการประสบการณ์ ความรู้

มาชี้ขาดคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามฐานความผิดตามกฎหมาย ทั้งกลุ่มแรกเป็นบรรดาคดีอาญาที่ฟ้องให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม

กลุ่มสอง ลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลธรรมดา ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลดังกล่าวกระทำความผิดฐานฟอกเงิน หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับความผิดในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ การให้เอกชนร่วมทุนในกิจกรรมของรัฐหรือกฎหมายอื่นที่มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ

กลุ่มสาม ความผิดที่บุคคลธรรมดาเรียกรับหรือให้สินบน ถ้าเกิดการเรียกรับหรือให้สินบนโดยเจ้าหน้าที่รัฐก็จะเข้ากลุ่มที่หนึ่ง ซึ่งศาลนี้ไม่ใช่จะลงโทษเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น

กลุ่มสี่ เป็นกรณีที่คดีอาญากำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐ หรือบุคคลธรรมดาต้องรับผิดในความผิดเกี่ยวกับคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และอีกกลุ่มเป็นบรรดาตัวการ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน ลักษณะตามประมวลกฎหมายอาญา

กลุ่มห้า คดีเกี่ยวกับการไม่ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สิน จงใจยื่นเอกสารดังกล่าวเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง เดิมจะขึ้นอยู่กับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีคดีจำนวนมาก

คดีเหล่านี้เข้าไปขวางการพิจารณาคดีที่เป็นเนื้อหาหลักๆของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะมีนักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองระดับท้องถิ่นกระทำความผิดกันเยอะมาก

จึงเอาความผิดฐานจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองระดับชาติและนักการเมืองระดับท้องถิ่นมาอยู่ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จะทำให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีเวลาพิจารณาคดีที่เป็นเนื้อหามากขึ้น

ขณะเดียวกันศาลชั้นต้นที่ทำหน้าที่พิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่กำลังจะจัดตั้งใหม่ ก็ต้องจัดผู้พิพากษาให้มีปริมาณรองรับกับคดีเหล่านี้ ซึ่งทำได้ง่ายกว่าและรวดเร็วกว่า แม้จะมีคดีจำนวนมาก

และกลุ่มหก ให้เอาคดีร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะเหตุร่ำรวยผิดปกติหรือทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ ก็เอามาไว้ที่ศาลนี้

ที่สำคัญได้พยายามแยกคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ เรื่องไหนที่ไม่เกี่ยวกับศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ

ถ้าเป็นนักการเมืองระดับชาติก็ไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนก็ไปศาลเยาวชน ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไปกระทำความผิดร่วมกับนักการเมือง ไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ใช่เฉพาะผู้กินเงินเดือนจากรัฐเท่านั้น กมธ.ได้ขยายหลักการกำหนดเอาบุคคลบางประเภทที่กฎหมายกำหนดให้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ถ้ากระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบก็อยู่ในความหมายของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย

การกำหนดเนื้อหาของกลุ่มประเภทคดีค่อนข้างกว้างขวาง ครอบคลุมมากขึ้น ถ้ามีปัญหาขัดกัน เช่น คดีนี้จะขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ก็มีช่องทางให้ประธานศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัย

เมื่อคดีเข้าสู่ศาล การพิจารณาพิพากษาจะรวดเร็ว เพราะใช้ระบบไต่สวนทำนองเดียวกับศาลปกครอง ที่พิจารณาติดต่ออย่างต่อเนื่องจนเสร็จการพิจารณา

การพิจารณาคดีประเภทเดียวโดยไม่มีคดีอื่นเกี่ยวข้อง มีผู้พิพากษาที่มีประสบการณ์สูง ยิ่งทำให้การพิจารณาคดีมีประสิทธิภาพ ระงับยับยั้งการทุจริตได้มากขึ้น และมีผลดีต่อประเทศ

เมื่อระบบศาลเร็วแล้ว จะต้องดูระบบต้นทางยุติธรรมให้รวดเร็วด้วย เพราะต้องเดินหน้าพร้อมกันทั้งระบบ

หัวใจของการพิจารณาคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นอย่างไร ถึงทำให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างรวดเร็ว นายสืบพงษ์ บอกว่า หลักการพิจารณาคดีที่สำคัญใช้ระบบไต่สวน ดูสำนวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นหลัก

มีการเตรียมหลักฐาน พยานให้ครบถ้วนก่อนสืบพยาน จะเกิดความแม่นยำในการสืบพยานและสืบในประเด็นสำคัญ มีระบบแก้ปัญหาการหลบหนีของจำเลย ซึ่งกรณีที่จำเลยหลบหนีไประหว่างสอบสวน จะไม่นับอายุความหรือหลบหนีระหว่างพิจารณาคดีก็ไม่นับอายุความ

และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบยังมีอำนาจพิจารณาคดีต่อไปได้ ในลักษณะที่จำเลยสละสิทธิในการพิจารณาต่อหน้า และเมื่อพิพากษาคดีแล้วจะมีการแถลงอุทธรณ์เกิดขึ้นในศาลอุทธรณ์ทีเดียว

หรือกรณีจำเลยจะอุทธรณ์หลังจากศาลชั้นต้นตัดสินไปแล้ว แต่จำเลยหลบหนีก็จะเสียสิทธิในการอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นตัดสินอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ถือเป็นมาตรการที่แข็งแรงและเข้มข้นมาก ปิดช่องว่างกรณีจำเลยหลบหนี

แตกต่างจากระบบคดีอาญาตามปกติที่เมื่อจำเลยหลบหนี ไม่สามารถทำคดีต่อไปได้ ศาลจะต้องรอจนกว่าจับจำเลยได้

ขณะที่ระบบการอุทธรณ์เป็นระบบปิด จะให้อุทธรณ์ไปยังแผนกศาลอุทธรณ์คดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้หรือไม่ กฎหมายกำหนดเอาไว้เรียบร้อยว่ากรณีใดบ้างที่อุทธรณ์ได้

แต่การฎีกาเป็นระบบอนุญาต ตามกฎหมายกำหนดให้มีผู้พิพากษาขึ้นมาคณะหนึ่งพิจารณาว่า คดีนี้สามารถให้ฎีกาได้หรือไม่

ซึ่งคดีที่จะอนุญาตให้ฎีกามีกำหนดขอบเขตไว้ในกฎหมายแล้ว ทำให้แต่ละคดีมีโอกาสจบในชั้นอุทธรณ์

เมื่อคดีทุจริตชี้ขาดรวดเร็วขึ้น ย่อมส่งผลทางจิตวิทยาทางสังคมให้เกรงกลัวการกระทำผิด

เท่ากับยับยั้งป้องกันการโกงได้ในอนาคต.

ทีมการเมือง

 

Leave a comment