ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ทีมข่าวการเมือง 18 มิ.ย. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/641238

สบโอกาสเบี่ยงมรสุมร้อนในประเทศ บินไปเจรจาการค้าที่ประเทศอินเดีย
ตามคิวที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ได้รับเทียบเชิญจากนายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย ยกคณะไปเชื่อมสัมพันธไมตรี หารือส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศ
พ่วงไปกับการลงนามความตกลง 5 ฉบับ อาทิ โครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ความร่วมมือด้านวิชาการ และบันทึกความเข้าใจระหว่างธนาคาร
เสริมด้วยโปรแกรมพิเศษ สักการะศาสนสถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธ ณ เมืองคยา รัฐพิหาร พร้อมร่วมเป็นประธานพิธีสวดมนต์เจริญจิตภาวนาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ได้โอกาสเติมแรงศรัทธา สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาเป็นกำลังใจ ในห้วงที่สถานการณ์หลายเรื่องในประเทศไทยกำลังไต่ดีกรีร้อนระอุขึ้นไปเรื่อยๆ
ทั้งกรณีศึกธรรมกายที่ถูกเติมหัวเชื้อให้ระอุขึ้นอีกระลอก ภายหลังหน่วยปฏิบัติการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต้องถอยทัพ พับ “แผนกบิล 59” หลังถูกสาวกธรรมกายตั้งด่านโล่มนุษย์สกัดเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปตะครุบตัว “ธัมมชโย” เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
วืดได้ตัวเจ้าสำนักธรรมกายมาดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร
กองทัพธรรมกายประกาศแถลงการณ์แสดงจุดยืน จะให้หลวงพ่อเข้ามอบตัว เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
แนวรบธรรมกาย-ดีเอสไอยังตึงเครียด ทั้งสองฝ่ายต่างตรึงกำลังรอดูท่าที ต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน
ที่สำคัญประเด็น “ธัมมชโย” ถูกโยงเป็นประเด็นการเมืองโดยสมบูรณ์แบบ
ไล่เลี่ยไปกับสถานการณ์คุกรุ่นเรื่องความสงบเรียบร้อยช่วงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก็ไต่ระดับความร้อนแรงขึ้นเช่นกัน หวิดเกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มแนวร่วมพลเมืองโต้กลับกับ
เครือข่ายคนไทยหัวใจเกินร้อย
ระหว่างการจัดกิจกรรมมินิคอนเสิร์ต “พลเมืองตีเข่า” ของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่หน้าสำนักงาน กกต.มีการไล่ล่าหาตัวแกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ
สร้างความแตกตื่นแก่ข้าราชการและประชาชนภายในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
สงครามความแตกแยกของคนในสังคมยังไม่จบ และมีทีท่าจะลุกโชนรอบใหม่
ในภาวะที่ขุมข่ายอำนาจพิเศษพยายามควบคุมสถานการณ์ให้นิ่ง เพื่อนำร่างรัฐธรรมนูญ
ฝ่าด่านประชามติ
ยอมผ่อนปรนลดแรงต้านทุกทาง ไล่ตั้งแต่ยอมเปลี่ยนเวทีอบรมประชามติของ กกต.จากในค่ายทหาร เป็นพื้นที่ส่วนราชการ ล้างภาพลักษณ์แข็งกร้าวให้ดูนุ่มนวลขึ้น
ขณะที่ กกต.ก็เตรียมเปิดตัวเพลงรณรงค์ประชามติ เวอร์ชั่นสอง แก้ไขข้อผิดพลาดจากรอบแรก ไม่ให้มีเนื้อหากินแหนงแคลงใจ ถูกนำไปตีความในทำนองดูถูกคนภาคเหนือและอีสาน
หรือกระทั่งการที่หัวหน้า คสช.ลงนามคำสั่งมาตรา 44 ให้เรียนฟรี 15 ปีตั้งแต่อนุบาลถึง ม.6
แหวกเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้เรียนฟรี 12 ปี ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึง ม.3
คสช.งัดแคมเปญเรียนฟรี 15 ปี ดับประเด็นเรื่องเรียนฟรีในร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกตั้งป้อมวิจารณ์อย่างหนัก
จูงใจให้ชาวบ้านเห็นผลงาน ในช่วงที่กำลังขับเคี่ยวประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
ถึงคราวท็อปบูตต้องงัดกลยุทธ์การตลาดมาสร้างคะแนนนิยม ลดแรงเสียดทาน ไม่ให้โรดแม็ปประชามติถูกเจาะยางกลางทาง
สวนทางกับฝ่ายตรงข้ามที่พยายามเร้ากระแสเดินเกมยั่ว คสช.
ถี่และหนักขึ้นในช่วงนี้
ในรูปแบบการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติทั่วประเทศของ นปช. คอยจับผิดการทำประชามติ เดินเกมกวักมือชวนยูเอ็นและสถานทูตต่างประเทศเข้าสังเกตการณ์ที่ศูนย์ปราบโกงฯ
งัดลูกเล่นตามสไตล์ถนัด ยืมมือนานาชาติมาจับตาการใช้อำนาจฝ่ายกองทัพ
ตามรูปการณ์ที่เจ้าหน้าที่ไล่ปลดป้ายศูนย์ปราบโกงฯในจังหวัดต่างๆ อาทิ ลำปาง กาญจนบุรี หลังจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ส่งเสียงขึงขังห้ามตั้งศูนย์ปราบโกงฯ
รับจังหวะกับยุทธการปูพรมในโลกออนไลน์ ตามคิวที่มือวางเกมและมือกฎหมายของพรรคเพื่อไทยอย่าง นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย นำทีมงาน 17 อดีต ส.ส.โพสต์เฟซบุ๊กแสดงเจตนารมณ์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญพร้อมกัน
โน้มน้าวอารมณ์กองเชียร์ให้ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ
เครือข่ายนายใหญ่ ทั้งพรรคเพื่อไทยและ นปช.ออกแพ็กเกจเลี้ยงกระแส สั่งสมหัวเชื้อ เร้าปฏิกิริยามวลชน
ส่งสัญญาณเตรียมเข้าโหมดร้อนแรงช่วงประชามติ.
ทีมข่าวการเมือง