ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/233125
วันพฤหัสบดี ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งสัญญาณที่จะปฏิรูปการเมืองให้เสร็จก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปถือเป็นงานท้าทายและจะพิสูจน์ความจริงใจของคสช.และรัฐบาลว่าจะทำได้จริงอย่างที่พูดหรือไม่แค่ไหน โดยเฉพาะการขจัดนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอันเป็นต้นเหตุสำคัญของวิกฤติชาติให้พ้นจากแวดวงการเมืองอย่างสิ้นเชิง
แม้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง จะกำหนดกรอบมาตรการทั้งสกัดกั้นป้องกันขจัดนักการเมืองเลวที่โกงบ้านกินเมืองทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นยิ่งกว่าก็คือการใช้ยาแรงที่เข้มข้นในการป้องกันและลงโทษนักธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยไม่ให้เข้าสู่แวดวงอำนาจไปตลอดชีวิตไม่รวมโทษทางอาญาและทางแพ่ง โดยกำหนดรายละเอียดอย่างชัดเจนในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือ พ.ร.บ.ประกอบด้วยการเลือกตั้ง สส. ตลอดจนการกำหนดให้คดีทุจริตไม่มีอายุความ
นอกจากนี้ต้องนำตัวนักการเมืองเลวคนสำคัญในอดีตเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อลงโทษไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งที่ผ่านมาคสช.พยายามผลักดันคดีทุจริตสำคัญเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมน่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่บางคดีก็ยังมีความล่าช้าโดยเฉพาะการดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อให้นักการเมืองชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดิน อาทิ คดีโครงการรับจำนำข้าวสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งความล่าช้าอาจเป็นเพราะข้าราชการซึ่งมีหน้าที่ในการดำเนินคดีทางแพ่งเกียร์ว่างดึงเกม
การฟ้องแพ่งโครงการรับจำนำข้าวที่ส่อเค้าทะแม่งทำให้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยอภิปรายเปิดโปงและเกาะติดคดีโครงการรับจำนำข้าวแบบกัดไม่ปล่อยตั้งข้อสังเกตว่า จนล่าสุด นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ก็ยังไม่ยอมลงนามในคำสั่งฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก นายบุญทรงเตริยาภิรมย์ และพวกรวม 6 คนกรณีซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีสร้างความเสืยหายแก่รัฐเบื้องต้น 20,000 ล้านบาท
นอกจากนี้การฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสรุปยอดความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบอยู่ที่ 2.86 แสนล้านบาท แต่ล่าสุดมีข่าวว่าคณะกรรมการรับผิดทางแพ่งกลับเคาะตัวเลขความเสียหายเหลือ 1.78 แสนล้านบาท โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดใช้เป็นมูลค่าเพียง 35,717 ล้านบาท
เพราะฉะนั้นคงต้องจับตาการฟ้องเอาผิดทางแพ่งคดีโครงการรับจำนำข้าวซึ่งจะเป็นหนึ่งในกรณีตัวอย่างที่สะท้อนว่า คสช. และรัฐบาลบิ๊กตู่เอาจริงกับการปฏิรูปการเมืองมากน้อยแค่ไหน
ทีมข่าวการเมือง
