ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/231716
วันอังคาร ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
ปมร้อนความเคลื่อนไหวของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กลุ่มหนึ่ง อาทิ พล.อ.นพดล อินทปัญญานายวันชัย สอนสิริ นายทวีศักดิ์สูทกวาทิน ที่ออกมาจุดกระแสเสนอให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มีสิทธิ์เสนอชื่อและร่วมโหวตเลือกนายกฯในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกจนถูกกระแสต่อต้านจากบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ หรือแม้แต่ในหมู่สมาชิกสนช.ด้วยกันเอง จนอาจกลายเป็นระเบิดเวลาทางการเมืองจากการจุดกระแสให้เกิดการลุกฮือถึงขนาดเกิดเสียงร่ำลือว่าเสี่ยงที่จะเป็นชนวนกลายเป็นพฤษภาทมิฬภาคสอง
ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และหนึ่งในแกนนำคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต้องออกมาถอดชนวนระเบิดเวลาโดยย้ำว่า สว.คงเสนอชื่อนายกฯไม่ได้เพราะต้องทำตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ นอกเสียจากกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถเสนอชื่อนายกฯได้ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม จึงเปิดโอกาสให้ สว.เสนอชื่อเพื่อหานายกฯคนนอกได้แต่โดยหลักการต้องให้เป็นหน้าที่ของสส.ในการเสนอชื่อนายกฯก่อน โดยสว.ร่วมโหวตด้วยเท่านั้น
“เป็นไปไม่ได้ที่สว.จะเสนอชื่อนายกฯได้เลย ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่า”
ขณะที่ นายพีระศักดิ์ พอจิตรองประธานสนช. ยืนยันว่าจากการหารือจะไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของคำถามพ่วงที่ผ่านการทำประชามติมาแล้ว โดยกระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีจะเป็นไปตามขั้นตอนโดยเริ่มจากสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้เสนอชื่อและให้ความเห็นชอบ แต่หากไม่สามารถหาตัวนายกรัฐมนตรีได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามจึงมาถึงขั้นตอนที่สอง ซึ่ง สว.มีสิทธิ์ที่จะเสนอชื่อ รวมทั้งร่วมโหวตเลือกนายกฯได้ อย่างไรก็ตาม หากจะตีความว่าสว.ไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อไม่ว่าขั้นตอนไหนสุดท้ายก็คงไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี
จากท่าทีของ พล.อ.ประวิตร ก็น่าจะการันตีปิดประตูแนวคิดที่จะดันทุรังให้สว.มีสิทธิ์เสนอชื่อและร่วมโหวตนายกฯตั้งแต่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก ซึ่งนักสังเกตการณ์ทางการเมืองมองว่าเป็นการตัดสินใจเดินเกมที่ถูกต้องของคสช. เพราะเรื่องการบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและเจตนารมณ์ตามผลประชามติถือเป็นเรื่องอ่อนไหวที่ฝ่ายตรงข้ามคสช.และรัฐบาลสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการจุดชนวนระเบิดเวลาได้ง่ายและชอบธรรม
การจะทำอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงความพอดี การที่จะตะแบงดันทุรังในลักษณะได้คืบเอาศอกหักด้ามพร้าด้วยเข่าในเรื่องที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของคนหมู่มากอาจทำให้คสช.และรัฐบาลพังเอาง่ายๆ ซึ่งแม้แต่ในหมู่สนช.หรือแนวร่วมกองเชียร์คสช.และรัฐบาลจำนวนไม่น้อยก็ยังส่ายหน้าและเกรงว่านายกฯลุงตู่จะเสื่อมเพราะคนแวดล้อม
ทีมข่าวการเมือง
