โพลล์ชี้มหาชนหนุนรธน.ท่วมท้น สะท้อนวิกฤติศรัทธานักการเมือง?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/228286

วันจันทร์ ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

นี่ขนาดมีขบวนการใต้ดินใช้สารพัดวิชามารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญปราบโกงหวังปลุกระดมให้ประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรรมนูญ ขณะที่สองพรรคใหญ่คือเพื่อแม้วกับประชาธิปัตย์ที่ปกติเป็นศัตรูที่ไม่เผาผีแต่ขณะนี้กลับหันมาร่วมกันรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ แต่จากผลสำรวจของกรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพล่าสุดในหัวข้อ “นับถอยหลัง 7 วันก่อนลงประชามติ” ด้วยการหยั่งเสียงประชาชนทั่วประเทศพบว่า ประชาชนตื่นตัวจะไปใช้สิทธิลงประชามติถึง 87.8% และจะรับร่างรัฐธรรมนูญร้อยละ 48.4 ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ขณะที่ฝ่ายที่จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีเพียงร้อยละ 7.7 ซึ่งมีสัดส่วนลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือเป็นพลังเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจหรือตั้งใจจะงดออกเสียง

ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันลงประชามติยังคงมีการใช้วิชามารสุดสกปรกชั่วร้ายก็คือข่าวอดีต สส.ในจังหวัดชายแดนภาคใต้บางคนบางกลุ่มแพร่คลิปบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญปราบโกงแล้วปลุกปั่นยุงยงชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้พร้อมใจกันคว่ำร่างรัฐธรรมนูญโดยบิดเบือนว่า ร่างรัฐธรรมนูญมีเนื้อหากำหนดให้ศาสนาพุทธอยู่เหนือกว่าศาสนาอื่น รวมทั้งศาสนามุสลิม ซึ่งคลิปชั่วร้ายดังกล่าวนอกจากส่งผลต่อการลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 7 ส.ค.นี้แล้ว ยังเป็นการสร้างความแตกแยกทางศาสนาและบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

หากผลสำรวจของกรุงเทพโพลล์สะท้อนฉันทามติของประชาชนได้อย่างแม่นยำจริง นอกจากเป็นสัญญาณสะท้อนความศรัทธาเชื่อถือในร่างรัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูปประเทศแล้ว ยังแสดงถึงความไว้ใจที่ประชาชนมีต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มากกว่าบรรดาพรรคการเมือง

การที่เกิดวิกฤติศรัทธานักการเมืองโดยมหาชนน่าจะเป็นเพราะพฤติกรรมที่เหิมเกริมชั่วร้ายของนักการเมืองบางพรรคที่เป็นต้นเหตุทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติหายนะล่มจมบอบช้ำอย่างหนักจนกลายเป็นรัฐล้มเหลวตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้คสช.ต้องเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ซึ่งหากนักการเมืองประพฤติตัวดีก็คงไม่มีคสช.ในวันนี้

นอกจากนี้มหาชนยังเบื่อหน่ายการเมืองน้ำเน่าและเอือมระอานักการเมืองที่ไม่ว่าจะสร้างภาพพูด คิดหรือทำอะไรก็ล้วนมุ่งเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าคำนึงถึงชาติบ้านเมือง อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ล่าสุดออกมาชี้ว่า นักการเมืองอ้างแต่ประชาธิปไตย แต่ไม่เคยทำอะไรเพื่อบ้านเมือง ทำให้ประชาชนหันไปฝากความหวังไว้กับคสช.ให้จัดระเบียบประเทศครั้งใหญ่เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปเสียทีไม่กลับไปสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมืองซ้ำซากอีก

วิกฤติศรัทธาในนักการเมืองถึงกับเกิดกระแสในหมู่มหาชนจำนวนมากที่แสดงออกทางโซเชียลมีเดียที่เรียกร้องให้อำนาจพิเศษภายใต้คสช.อยู่วางรากฐานประเทศต่อไปอย่างไม่มีกำหนดเวลาเพราะนับวันจะเริ่มตื่นรู้ในความเป็นประชาธิปไตยแบบจอมปลอมแบบไทยๆ

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment