7ส.ค.วันประชามติวัดใจมหาชน เชื่อนักการเมืองหรือมั่นใจรธน.เพื่อปฏิรูป

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/228621

วันพุธ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

อีกแค่ 4 วันก็จะได้รู้กันแล้วว่าประชาชนผู้เป็นเสียงสวรรค์จะมีลงประชามติผ่านหรือคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงท่ามกลางกระแสสนับสนุนและต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญที่ดุเดือดเข้มข้นทั้งบนดินและใต้ดิน

แต่ยิ่งนักการเมืองโดยเฉพาะซีกฝั่งขบวนการเพื่อแม้ว โดยเฉพาะอย่าง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดง ตลอดจนแกนนำคนเสื้อแดงหรืออย่างนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ออกมาประกาศจุดยืนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญแทน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก ผู้เป็นพ่อดูเหมือนจะยิ่งเร่งให้พลังเงียบตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญ

นักการเมืองก็คือนักการเมืองย่อมคำนึงถึงผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง และการเมืองก็เหมือนละครบางทีก็ต้องเล่นบทอ้างอิงประชาธิปไตย ทั้งที่ 10 กว่าปีที่ผ่านมาประชาธิปไตยจอมปลอมแบบไทยๆ คือต้นเหตุของการโกงบ้านกินเมืองอย่างมโหฬารและเต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้ายจนบ้านเมืองต้องพินาศย่อยยับจนมวลมหาประชาชนต้องออกมาแสดงพลังครั้งยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนเพื่อขับไล่รัฐบาลธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตย และเป็นต้นเหตุให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองเพื่อปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่และร่างรัฐธรรมนูญปราบโกงในวันนี้

ในทางตรงกันข้ามคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) นั้นต่างจากนักการเมืองเพราะไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงมาทำหน้าที่ออกแบบร่างรัฐธรรมนูญเพื่อชำระล้างสิ่งชั่วร้ายทางการเมืองให้สะอาดขึ้นโดยยึดชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง

การที่นักการเมืองซึ่งเคยประพฤติชั่วร้ายทำลายชาติบ้านเมืองจนพินาศล่มจมและเป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติซึ่งกำลังจะถูกปฏิรูปให้พ้นแวดวงการเมือง แต่กลับออกมาเคลื่อนไหวให้คว่ำร่างรัฐธรรมนุญถือเป็นความด้านไร้ยางอายและเอาสีข้างเข้าถูโดยอ้างประชาธิปไตยบังหน้า จึงไม่มีความชอบธรรมและไม่น่าเชื่อถือแม้แต่น้อย

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ถึงได้เตือนประชาชนว่าเป็นเรื่องอันตรายหากหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อของเหล่านักการเมืองเพราะนักการเมืองมีส่วนได้เสียกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ทั้งนี้การที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีกลไกที่อาจมองว่าเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบเพื่อปูพื้นฐานประคับประคองให้การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศเป็นไปด้วยความราบรื่นและต่อเนื่องช่วงระยะเวลาหนึ่งถือเป็นความจำเป็นในช่วงเปลี่ยนผ่านซึ่งยังดีกว่าประชาธิปไตยจอมปลอมซึ่งที่ผ่านมาพิสูจน์เห็นแล้วว่านำพาประเทศไปสู่ความวิบัติย่อยยับ ดังนั้น 7 ส.ค.วันลงประชามติจึงเป็นวันวัดใจมหาชนว่า จะผ่านร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปประเทศหรือจะเชื่อคล้อยตามคารมนักการเมือง

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment