ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 พ.ค. 2559 20:47
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/620762

อีกหนึ่งตัวอย่าง พลิกวิกฤติหน้าแล้ง ชาวนา สร้างเพิงหมาแหงนริมถนน เฉาะลูกตาลสดๆ ขายตั้งแต่แปดโมง ไม่ทันบ่ายขายหมดเกลี้ยง คนเข้าคิวซื้อตรึม โกยเงินวันละ 2 พัน ตกเดือน 6 หมื่น กำไรงามๆ…
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเส้นทาง ทางหลวงชนบทสายตระการพืชผล – กุดข้าวปุ้น ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 8 บริเวณบ้านกอก หมู่ที่ 5 ต.เกษม อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ห่างจากหมู่บ้านไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 200 เมตร มีเพิงหมาแหงนมุงด้วยตาข่ายสีดำขนาดเล็กอยู่ทางขวามือ มีชายวัยเกือบ 60 ปี นั่งเฉาะลูกตาลขาย โดยมีลูกสาวและหลานมาช่วยแกะตาลบรรจุใส่ถุงวางขายบนชั้นแคร่ไม้ไผ่ขนาดเล็ก สร้างรายได้ช่วงฤดูแล้งวันละ 2,000 บาท หรือเดือนละ 60,000 บาท เป็นอย่างต่ำ

ด้าน นายสาน สำเภา อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 5 บ้านกอก ต.เกษม อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพทำนา เมื่อถึงช่วงฤดูแล้ง จะว่างงาน ขณะเดียวกันได้เห็นพ่อค้าคนกลางมาจากตำบลอื่น มาขอซื้อลูกตาลจากต้นตาลของเพื่อนบ้านนำไปขายในตัวเมืองอุบลราชธานี ซึ่งมีกำไรงดงาม จึงคิดว่าน่าจะเฉาะตาลขาย เพราะในที่นาของตนมีต้นตาลหลายต้น จึงสร้างเพิงนั่งเฉาะตาลขายตั้งแต่ปี 2556
พร้อมบอกในแต่ละปี จะเริ่มนำเอาลูกตาลมาเฉาะขายตั้งแต่เดือน ก.พ. มาจนถึงเดือน พ.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นตาลให้ผลผลิต และเนื่องจากในที่นาของตนมีต้นตาลอยู่เพียง 5 ต้น ทำให้ไม่พอขาย จึงได้ไปขอซื้อลูกตาลจากเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันและหมู่บ้านใกล้เคียง โดยซื้อเหมาเป็นต้นๆ ละ 100 – 200 บาท และขึ้นเก็บลูกตาลเอง ซึ่งแต่ละต้นจะมีหลายทะลาย มีลูกตาลหลายลูก เมื่อซื้อมาแล้วต้องมาคัดลูกที่แก่ทิ้งไป แล้วนำลูกตาลที่อ่อนมาเฉาะปอกเปลือกขาย บรรจุในถุงพลาสติกถุงละ 7 ชิ้น ขายราคาถุงละ 20 บาท ซึ่งขายดีมาก ตั้งแต่ช่วงแปดโมงเช้า และไม่เกินบ่ายโมง จะขายหมดทุกวัน เพราะมีรถวิ่งผ่านทั้งวัน
รถส่วนใหญ่จะจอดซื้อแทบทุกคัน อีกทั้งบนถนนสายนี้และที่หมู่บ้านไม่มีคนมานั่งเฉาะตาลขาย จะมีหมู่บ้านใกล้เคียงอยู่ 2-3 ราย เท่านั้น พวกเขาก็ไม่ได้เฉาะขายกันแบบสดๆ แต่ซื้อจากคนอื่นมาวางขายอีกที ที่ขายดีคงเป็นเพราะว่า เฉาะขายกันสดๆ ถ้าซื้อเยอะก็จะมีลดมีแถม และลูกค้าสามารถเลือกได้เพราะเรามีลูกตาลเยอะ ทำให้ในแต่ละวันเฉาะจนไม่ทัน จนลูกค้าต้องยืนเข้าคิวรอก็มี และบางวันมีพ่อค้าคนกลางมาซื้อไปขายต่อที่อื่นคราวละมากๆ บางทีจะมีคนมาขอเหมา แต่ไม่ค่อยขายแบบนั้น เพราะได้กำไรน้อย สู้ค่อยๆ เฉาะขายเองจะดีกว่า เพราะกำไรดี”

ส่วนรายได้ในแต่ละวัน หากเทียบกับตาล 1 ต้น ทำเงินได้ประมาณ 700 บาท เป็นอย่างต่ำ ในแต่ละวันหาซื้อลูกตาลมาเฉาะขายวันละ 3 ต้น รวมมีรายได้ประมาณวันละ 2,000 บาท เป็นอย่างต่ำ หรือตกเดือนละ 60,000 บาท โดยตนปีนขึ้นเก็บลูกตาลบนต้นตาลเองและนั่งเฉาะขายเอง มีลูกสาวมาช่วยเฉาะ และมีหลานสาว หลานชาย ในวัยประถมศึกษาซึ่งอยู่ในระหว่างปิดภาคเรียนมาช่วย ทำให้มีรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย และช่วงที่ขายดีที่สุด จะเป็นช่วงเดือน เม.ย. เพราะลูกตาลจะหวานมาก และอากาศร้อนคนชอบรับประทาน ทำให้ขายหมดก่อนเที่ยงทุกวัน.