จับตาคลังเคาะตัวเลขฟ้องปู ชดใช้ค่าเสียหายคดีจำนำข้าว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/236673

วันศุกร์ ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.

ในคดีฟ้องทางปกครองเพื่อให้จำเลยคดีโครงการรับจำนำข้าวชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินขณะนี้ก็เสร็จเรียบร้อยไปแล้วเปลาะหนึ่งหลังจากที่นางอภิรดี ตันตราภรณ์ โชว์ความกล้าหาญเพื่อชาติเซ็นคำสั่งฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์และพวกรวม 6 คน ในกรณีขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี เพื่อให้ชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินรวม 2 หมื่นล้านบาท แต่ยังเหลืออีกหนึ่งเปลาะที่สังคมเฝ้าจับตาและมีความสำคัญนั่นคือการเคาะตัวเลขมูลค่าความเสียหายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดต้องชดใช้แก่แผ่นดินฐานส่อเจตนาปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์

ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตจาก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรมอดีตสส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยอภิปรายแฉโครงการรับจำนำข้าวในสภาอย่างเข้มข้นและยังเกาะติดข้อมูลแบบกัดไม่ปล่อยมาจนปัจจุบันออกมาเปิดเผยว่า การเรียกค่าเสียหายจากคดีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่คณะกรรมการรับผิดทางแพ่งของกระทรวงการคลังที่มี นายมนัส แจ่มเวลาอธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นประธานส่อทะแม่งเพราะเดิมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวของสำนักนายกฯเคยสรุปยอดความเสียหายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบไว้ที่2.86 แสนล้านบาท แต่กลับมีข่าววงในว่า คณะกรรมการรับผิดทางแพ่งของ นายมนัส กลับเคาะตัวเลขเรียกความเสียหายเหลือ 1.78 แสนล้านบาท ซ้ำลดมูลค่าความเสียหาที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดใช้แก่แผ่นดินเหลือแค่ 20% ของยอดความเสียหายหรือราว 3.5 หมื่นล้านบาท

โดยคิดความเสียหายเพียง 3 จาก 5 โครงการคือปีการผลิต 2555/2556 และ 2556/2557 ตัดลดออกไป 2 โครงการของปีการผลิต 2554/2555 อ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพิ่งได้รับหนังสือท้วงติงจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวและการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านในอดีต จึงถือว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับทราบความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวหลังได้รับการแจ้งเตือน ซึ่ง นพ.วรงค์ ชี้ว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น

เพราะในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะฝ่ายค้านขณะนั้นได้ทักท้วงตั้งแต่การอภิปรายท้วงติงในวันที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่สำคัญที่สุดคือคณะกรรมการรับผิดทางแพ่งไม่ได้อ้างอิงถึงหนังสือท้วงติงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่มีหนังสือเตือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถึง 2 ฉบับลงวันที่ 7 ตุลาคม 2554 และวันที่ 30 เมษายน2555 ดังนั้นจะอ้างว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่งรับทราบความเสียหายหลังจากผ่าน 2 โครงการแรกจึงยิ่งฟังไม่ขึ้น

นายมนัสนั้นจะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนนี้จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจไม่อยากเอามือซุกหีบหาเรื่องใส่ตัว ซึ่งจะจริงหรือไม่คงต้องรอดูผลการสรุปตัวเลขของคณะกรรมการชุดนายมนัสในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment