ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/236505
วันพฤหัสบดี ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
จากผลกรรมพิษคดีโครงการรับจำนำข้าวที่นับถอยหลังไปสู่ประตูคุกและการชดใช้ค่าเสียหายคืนแก่แผ่นดินงวดเข้าไปทุกขณะทำเอา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ซึ่งเป็นจำเลยคนสำคัญถึงกับดิ้นพล่านเพื่อเอาตัวรอดด้วยการอ้างสารพัดเหตุผลแบบน้ำขุ่นๆ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่เปิดทางให้กรมบังคับคดีดำเนินการยึดทรัพย์จำเลยในคดีโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
ทั้งๆ ที่ความจริงแม้จะใช้มาตรา 44 แต่คดีโครงการรับจำนำข้าวก็ยังอยู่บนเส้นทางตามกระบวนการยุติธรรมปกติทุกประการ โดยกรมบังคับคดีเพียงมีหน้าที่ในการยึดทรัพย์เพราะมีความเชี่ยวชาญอีกทั้งเป็นคดีใหญ่ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงมาก ขณะที่ฝ่ายจำเลยยังมีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง และที่สำคัญถึงที่สุดแล้วถูกผิดอย่างไรทุกอย่างจะไปจบลงที่คำตัดสินของศาลสถิตยุติธรรม
คดีโครงการรับจำนำข้าวแยกเป็นสองส่วนคือ คดีทางอาญาซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งกว่าจะมีคำตัดสินว่าใครที่ต้องติดคุกบ้างก็คงจะเป็นราวกลางปีหน้า
ส่วนทางแพ่งการฟ้องทางปกครองให้จำเลยชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินแยกเป็นสองคดีคือการฟ้องทางปกครองให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐในกรณีซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีเก๊เป็นมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมี นายบุญทรง และพวกรวม 6 คน เป็นจำเลย ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามแทนนายกรัฐมนตรีในคำสั่งฟ้องเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีกคดีหนึ่งก็คือกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ขณะนี้กำลังรอการสรุปตัวเลขความเสียหายที่จะต้องชดใช้โดยคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งซึ่งมี นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นประธาน โดยมีข่าวว่าตัวเลขที่คณะกรรมการเคาะล่าสุดคือให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ความเสียหายมูลค่าเพียง 35,717 ล้านบาท ทั้งๆ ที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สำนักนายกฯตั้งขึ้นเคยสรุปตัวเลขความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวมีมูลค่าสูงถึง 286,639 ล้านบาท
แต่ประเด็นปัญหาที่สังคมกำลังเฝ้าจับตาสำหรับการตามยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายบุญทรง และพวกก็คือเมื่อมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ยึดทรัพย์จะสามารถยึดทรัพย์ได้จริงมากน้อยแค่ไหน
เพราะคาดว่าจะต้องมีการยักย้ายถ่ายเทซุกซ่อนทรัพย์สินไปก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา และกรณีหากทรัพย์สินของจำเลยที่เหลืออยู่น้อยกว่ามูลค่าทรัพย์สินที่จะถูกยึดอย่างมากก็ถูกสั่งฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งนี่คือช่องโหว่ของกฎหมายที่น่าจะมีการอุดช่องโหว่แก้กฎหมายให้ทันเล่ห์ศรีธนญชัยของเหล่านักการเมืองโกงชาติปล้นแผ่นดินหรือสร้างความล่มจมให้ประเทศด้วยการกำหนดให้แปรมูลค่าทรัพย์สินที่จำเลยเจตนาหลีกเลี่ยงไม่ชดใช้แก่แผ่นดินให้เป็นโทษจำคุกแทน
ทีมข่าวการเมือง
