ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/237253
วันอังคาร ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.
ขณะที่พิษคดีโครงการรับจำนำข้าวงวดเข้ามาทุกขณะ โดยล่าสุดคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งของกระทรวงการคลัง ที่มีนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นประธาน เคาะตัวเลขความเสียหายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดต้องชดใช้แก่แผ่นดินเป็นมูลค่า 3.57 หมื่นล้านบาท ทำให้ล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ชนิดที่เรียกได้ว่า เป็นการดับเครื่องชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
โดยข้อความในเฟซบุ๊คของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีใจความว่า “ทุกอย่างที่นายกฯยืนยันออกมาจากปากท่านว่าการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับคดีดิฉันเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้ง ก็อยากให้นายกฯใช้หลักคิดและให้ความเป็นธรรมกับดิฉันเหมือนกับที่ท่านให้ความเป็นธรรมและปกป้องน้องชายของท่าน รวมทั้งคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกเดียวกับท่าน เพราะกฎหมายมีไว้บังคับใช้กับทุกคน ไม่ใช่เลือกปฏิบัติกับฝั่งดิฉันเพียงฝ่ายเดียว”
การเดินเกมแบบดับเครื่องชนกับพล.อ.ประยุทธ์ แบบตรงๆ และรุนแรงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เช่นนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างกระแสอ้างว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้งจากพิษคดีจำนำข้าว ขณะเดียวกันก็ได้ทีฉวยโอกาสขณะที่ครอบครัว พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวจนถูกฟ้องร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเฉพาะกรณีบุตรชาย พล.อ.ปรีชา ได้งานรับเหมาก่อสร้างในกองทัพหลายโครงการมูลค่ารวมเกือบ 100 ล้านบาท มาเป็นเครื่องมือผูกโยงทำลายความน่าเชื่อถือของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเลือกปฏิบัติ ถึงขนาดกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ ปกป้องน้องชายตัวเอง
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินเกมแบบดับเครื่องชน พรรคเพื่อแม้ว ก็ออกแถลงการณ์สอดรับด้วยการโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ อย่างหนักว่าลุแก่อำนาจด้วยการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เปิดทางให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์ในคดีรับจำนำข้าว ทั้งๆ ที่การยึดทรัพย์โดยกรมบังคับคดีเป็นเรื่องปกติตามกระบวนการยุติธรรมที่ปฏิบัติกันมาช้านาน
นอกจากนี้ขบวนการเพื่อแม้ว ยังพยายามบิดเบือนอ้างว่าการใช้อำนาจตาม มาตรา 44 เปิดทางให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์ เป็นการละเมิดชี้นำอำนาจศาล เพราะศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ทั้งๆ ที่เป็นคนละเรื่องอย่างสิ้นเชิง ซึ่งในอดีตมีคดีสำคัญมากมายที่กรมบังคับคดีสั่งยึดทรัพย์ก่อนที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดเพราะเป็นคนละส่วนกัน อาทิ คดีทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิง หรือคดีทุจริตโครงการบ่อบัดน้ำเสียคลองด่าน
จากความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อแม้วสะท้อนอาการหวาดผวาใกล้เข้าตาจนจึงต้องทำทุกวิถีทางดิ้นรนเพื่อตัวเอง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต้องจับตาเป็นอย่างยิ่งเพราะคนที่กำลังเลือดเข้าตาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด โดยไม่คำนึงถึงความหายนะที่จะเกิดกับชาติบ้านเมืองซึ่งมีบทเรียนในอดีตให้เห็นมาแล้ว
ทีมข่าวการเมือง
