พรบ.ประกอบรธน.ต้องชัดเจนเข้มข้น ไม่ทำให้ปฏิรูปปราบโกงต้องเสียของ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/234435

วันศุกร์ ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.

ขณะนี้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเริ่มทยอยส่งแนวคิดร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญสำคัญ 4 ฉบับสำคัญอันจะนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองประกอบด้วย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองไปยัง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์เป็นประธาน เพื่อให้พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับแม่และคำถามพ่วง ที่ผ่านการทำประชามติมาแล้ว

ล่าสุดมีข้อเสนอจาก นายเสรี สุวรรณภานนท์ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยมีสาระสำคัญที่น่าสนใจคือ การกำหนดให้การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องแสดงแบบรายการเสียภาษีเงินได้ย้อนหลัง 3 ปี แสดงตนประกาศให้สมาชิกและประชาชนรู้ล่วงหน้าก่อนลงเลือกตั้ง 1 ปี ขณะเดียวกันให้สมาชิกในเขตเลือกตั้งเป็นผู้คัดเลือกผู้สมัครเลือกตั้งด้วยวิธีการเลือกตั้งชั้นต้น (Primary Vote) เหมือนการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา

ส่วนเรื่องเงินสนับสนุนพรรคการเมืองห้ามผู้ใดหรือนิติบุคคลใดสนับสนุนเงินลงทุนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกกรณี เว้นแต่บริจาคตามที่กฎหมายกำหนด และห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้งนำเงินของบุคคลหรือนิติบุคคลใดมาใช้จ่ายหรือสนับสนุนการเลือกตั้งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และห้ามพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรคหรือตัวแทนรับเงินบริจาคที่ผิดกฎหมาย

ในกรณีพรรคการเมืองใดกระทำผิดอันเป็นการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยและทำลายความมั่นคงของชาติ พรรคการเมืองนั้นต้องสิ้นสภาพ และในกรณีที่นายทุน กลุ่มทุน นำเงินมาลงทุนในพรรคเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรงโดยจำคุก 5-10 ปี โดยไม่รอลงอาญา ปรับ 20 ล้านบาท หากเป็นนิติบุคคลกระทำผิดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบกระแสเงินหมุนเวียนด้วย ส่วนผู้สมัคร สส.และสว.หากกระทำผิดให้มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 20 ล้านบาทพร้อมเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งตลอดชีวิต

และในกรณีการกระทำผิดของผู้สมัคร สส.หรือสว.พิสูจน์ได้ว่าพรรคการเมืองมีส่วนรู้เห็นปล่อยปละละเลยหรือไม่ระงับยังยั้ง หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคถือว่ามีความผิดต้องถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต

นี่แค่ตัวอย่างซึ่งผลสรุปจะออกมาอย่างไรคงต้องจับตาดู แต่ที่แน่ๆ คือสังคมไม่อยากเห็นการยึดอำนาจเสียของกลับไปสู่วังวนของวงจรอุบาทว์อันชั่วร้ายแบบเดิมๆ และอยากเห็นการปฏิรูปประเทศเดินหน้าอย่างจริงจังด้วยการใช้ยาแรงขจัดธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอม ที่เต็มไปด้วยการทุจริตโกงชาติปล้นแผ่นดิน การซื้อ สส. ซื้อเสียง ซื้อประชาธิปไตย ซื้ออำนาจรัฐซื้อประเทศ ซึ่งเป็นต้นเหตุของความวิบัติหายนะของชาติตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment