ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/234585
วันเสาร์ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
มติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่ลงดาบชี้มูลความผิดทางอาญา 3 ตัวการของพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภาฉายา “ขุนค้อน” และนายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีต สส.นนทบุรีฐานร่วมกันสับเปลี่ยนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ขณะที่ นายนริศร ทองธิราช อดีต สส.สกลนคร มีความผิดฐานโกงผลคะแนนการลงมติผ่านร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาสว.ด้วยการเสียบบัตรแทนเพื่อนสส.พรรคเพื่อไทยกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมถือเป็นการสะท้อนให้เห็นธาตุแท้ของขบวนการเพื่อแม้วที่หน้าฉากพยายามสร้างภาพต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่หลังฉากซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงกลับตรงกันข้างอย่างสิ้นเชิงเพราะเป็นธุรกิจการเมืองทุนสามานย์เผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยจอมปลอม
รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบแม้วภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นอกจากส่อพฤติการณ์ลุแก่อำนาจใช้ความเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมกระทำสิ่งเลวร้ายตามใจชอบนอกเหนือจากความพยายามผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ สว.แล้ว ที่เลวร้ายยิ่งกว่าก็คือหักดิบผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยตอนรุ่งสางโดยอ้างการสร้างความปรองดองบังหน้า แต่มีเป้าหมายแอบแฝงมุ่งลบล้างโทษความผิดให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก จนเป็นชนวนให้มวลมหาประชาชนออกมาแสดงพลังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จำนวนหลายล้านคนเพื่อคัดค้านอำนาจเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยและนำไปสู่การขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
โครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความพินาศล่มจมให้ประเทศร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์คาดว่าเป็นมูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งผลจากโครงการรับจำนำข้าวยุคยิ่งลักษณ์ได้ทำลายวงจรข้าวของประเทศทั้งระบบซึ่งยังส่งผลมาจนทุกวันนี้
ที่ผ่านมาระบอบทักษิณมักสร้างภาพต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด แต่กลับส่อพฤติการณ์ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงโดยเป็นธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่ใช้เงินกว้านซื้อ สส. ซื้อเสียง ซื้อประชาธิปไตย ซื้อประเทศเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ จากนั้นทุจริตคอร์รัปชั่นโกงชาติปล้นแผ่นดินถอนทุนบวกกำไรมหาศาล และใช้ทุนและอำนาจรัฐอันฉ้อฉลซื้อพวกซื้อข้าราชการและเอาชนะการเลือกตั้งเพื่อหวังผูกขาดอำนาจอย่างถาวรกลายเป็นวงจรอุบาทว์อันชั่วร้าย
สำหรับพรรคเพื่อแม้วนั้น ยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า โดยเนื้อแท้แล้วไม่ต่างจากการเป็นบริษัทการเมืองจำกัดโดยบรรดา สส.หาใช่ตัวแทนปวงชนอย่างแท้จริงไม่ แต่มีสถานะไม่ต่างจากลูกจ้างบริษัทที่รับท่อน้ำเลี้ยงและฟังคำสั่งจากเจ้าของบริษัทเพียงคนเดียว
ในยุครัฐบาลระบอบแม้วเรืองอำนาจสุดขีดยังเหิมเกริมถึงขนาดละเมิดรัฐธรรมนูญด้วยการออกพระราชกำหนดเพื่อลดภาษีแก่ธุรกิจโทรศัพท์มือถือเอื้อประโยชน์ต่อตระกูลชินมูลค่ามหาศาล ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้การออกพระราชกำหนดจะกระทำได้ต่อเมื่อบ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤติร้ายแรงที่เป็นภัยต่อความมั่นคงหรือเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น
นอกจากนี้ระบอบแม้วด้วยการอาศัยมวลชนจัดตั้งคือม็อบเสื้อแดงและกองกำลังก่อการร้ายใต้ดินสร้างสถานการณ์รุนแรงหวังช่วงชิงอำนาจรัฐในเหตุการณ์ก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยาเมื่อปี 2552 แต่ประสบความล้มเหลว จนในปีถัดมาขบวนการเพื่อแม้วสร้างสถานการณ์ลอบก่อวินาศกรรมตามสถานที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่องและจบลงด้วยม็อบเสื้อแดงเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกองกำลังติดอาวุธใต้ดินสร้างสถานการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553
ในเหตุการณ์เมื่อปี 2553 ม็อบเสื้อแดงยังยกกำลังบุกสภากาชาดไทยและโรงพยาบาลจุฬาฯจนต้องมีการอพยพผู้ป่วยกันอย่างอลหม่านซึ่งในจำนวนนี้หลายคนเป็นผู้ป่วยวิกฤติ และที่เลวร้ายคือต้องมีการอพยพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งรักษาอาการพระประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯไปยังโรงพยาบาลศิริราชเป็นการชั่วคราว ซึ่งพฤติการณ์ของม็อบเสื้อแดงถือเป็นการละเมิดกฎสากลที่กำหนดให้โรงพยาบาลถือเป็นสถานที่ปลอดภัยที่ต้องปลอดจากการคุกคามอย่างเด็ดขาดไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ แม้แต่ในยามสงคราม
ตัวอย่างพฤติการณ์ของขบวนการเพื่อแม้วทั้งหมดข้างต้นจึงสวนทางกับระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น กรณีป.ป.ช.มีมติลงดาบ 3 สาวกขบวนการเพื่อแม้วทั้ง 3 จึงเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่สะท้อนความเป็นพวกประชาธิปไตยจอมปลอมของขบวนการเพื่อแม้ว ทั้งๆ ที่ธาตุแท้เป็นธุรกิจการเมืองเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยลวงโลกที่กำลังทยอยชดใช้กรรมจากการเหลิงในอำนาจในอดีต ขณะเดียวกันคงต้องตั้งคำถามกับสังคมว่า ยังจะให้โอกาสขบวนการเพื่อแม้วกลับมามีอำนาจทำร้ายประเทศเหมือนที่ผ่านมาอีกหรือไม่ โดยเฉพาะในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า
ทีมข่าวการเมือง
