ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/237080
วันจันทร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559, 02.00 น.
ผลสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศของกรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพต่อการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯกับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ กับพวกเป็นจำเลยปรากฏว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 63.4 เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์ ผู้กระทำผิด และส่วนใหญ่ร้อยละ 44.2 เห็นว่า ควรเพิ่มบทลงโทษอื่นๆ นอกเหนือจากการยึดทรัพย์ และพอใจในความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการจำนำข้าวสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
จากผลสำรวจยังสะท้อนว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่กังวลต่อเหตุการณ์ปั่นป่วนที่จะตามมา และเชื่อว่าผลจากการดำเนินคดี จะเป็นสิ่งเตือนสติทำให้นักการเมืองตระหนักในการทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดการฟ้องเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินจากโครงการรับจำนำข้าว นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง กระทรวงการคลัง ประกาศผลงานทิ้งทวนก่อนเกษียณอายุราชการในปลายเดือนนี้โดยเคาะตัวเลขความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ในฤดูกาลผลิต 2555/2556 และ 2556/2557 จากทั้งหมด 4 โครงการอยู่ที่ 1.78 แสนล้านบาท โดยในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นมูลค่า 20 % ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมดหรือคิดเป็นมูลค่า 3.57 หมื่นล้านบาทท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเคาะตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก
การเคาะตัวเลขมูลค่าการชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ประกาศโดยนายมนัส เป็นไปตามที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตสส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยอภิปรายแฉโครงการรับจำนำข้าวในสภาอย่างเข้มข้นและยังเกาะติดข้อมูลแบบกัดไม่ปล่อยมาจนปัจจุบันออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ทุกประการ โดย นพ.วรงค์ ตั้งข้อสังเกตว่าการเคาะตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าความเป็นจริงมากเพราะเดิมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวที่มี นายจิรชัย มูลทองโร่ย อดีตรองปลัดสำนักนายกฯเป็นประธานเคยสรุปยอดความเสียหายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบไว้ที่ 2.86 แสนล้านบาท
นพ.วรงค์ ชี้ให้เห็นว่า การที่ นายมนัส เคาะตัวเลขความเสียหายเหลือเพียง 1.78 แสนล้านบาท ซ้ำลดมูลค่าความเสียหายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดใช้แก่แผ่นดินเหลือแค่ 20% ของยอดความเสียหายหรือราว 3.5 หมื่นล้านบาทไม่น่าจะถูกต้องเพราะคิดตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวเพียง 3 จาก 5 โครงการโดยตัดลดออกไป 2 โครงการของปีการผลิต 2554/2555 อ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพิ่งได้รับหนังสือท้วงติงแจ้งเตือนความเสียหายจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในภายหลัง ซึ่ง นพ.วรงค์ ชี้ว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
เพราะในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะฝ่ายค้านขณะนั้นได้ทักท้วงตั้งแต่การอภิปรายท้วงติงในวันที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่สำคัญที่สุดคือคณะกรรมการรับผิดทางแพ่งไม่ได้อ้างอิงถึงหนังสือท้วงติงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ที่มีหนังสือเตือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถึง 2 ฉบับลงวันที่ 7 ตุลาคม 2554 และวันที่ 30 เมษายน 2555 ดังนั้นจะอ้างว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่งรับทราบความเสียหายหลังจากผ่าน 2 โครงการแรกจึงยิ่งฟังไม่ขึ้น
ดังนั้นคงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าจะมีการทบทวนตัวเลขของคณะกรรมการชุดนายมนัสหรือไม่ แต่สำหรับนายมนัสนั้นอีกไม่กี่วันคงสบายพ้นภาระหน้าที่แล้วจากการเกษียณอายุราชการ
