การสืบราชสันตติวงศ์ ภายใต้บทบัญญัติแห่งรธน.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/240146

วันเสาร์ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

เนื่องด้วยร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดยังไม่มีผลบังคับใช้ดังนั้นจึงต้องใช้บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ซึ่งบัญญัติว่า ให้บทบัญญัติของหมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับ พ.ศ.2550 ซึ่งยังมีผลบังคับใช้อยู่ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พ.ค.2557 ยังคงใช้บังคับต่อไปโดยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ความจริงแล้วบทบัญญัติในหมวดพระมหากษัตริย์รวมทั้งการสืบราชสันตติวงศ์ในร่างรัฐธรรมนูญทุกฉบับล้วนมีเนื้อหาที่เหมือนกัน โดยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มาตรา 23 หมวดที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์บัญญัติว่า “ในกรณีที่ราชบัลลังก์ว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์พระพุทธศักราช 2467 แล้วให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบและให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ

ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะองคมนตรีเสนอพระนามผู้สืบราชสันตติวงศ์ตามาตรา 22 ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อรัฐสภาเพื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ในการนี้จะเสนอพระนามพระราชธิดาก็ได้ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้วให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไปแล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ

ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการรับทราบตามวรรคหนึ่งหรือให้ความเห็นชอบตามวรรคสอง

ทั้งนี้ตามคำสั่งของคสช.กำหนดให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ทำหน้าที่รัฐสภา ดังนั้นประธาน สนช.จึงทำหน้าที่ดุจประธานรัฐสภาซึ่งจะเป็นผู้อัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่

นอกจากนี้ในมาตรา 24 ของรัฐธรรมนูญยังบัญญัติว่า ระหว่างที่ยังไม่มีการประกาศอัญเชิญองค์พระรัชทายาทหรือองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ตามมาตรา 23 ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน แต่ในกรณีที่ราชบัลลังก์ว่างลงในระหว่างที่ได้แต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไว้ตามมาตรา 18 มาตรา 19 หรือระหว่างเวลาที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามมาตรา 20 วรรคหนึ่งให้ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นั้นๆแล้วแต่กรณีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อไป ทั้งนี้จนกว่าจะได้ประกาศอัญเชิญองค์พระรัชทายาทหรือองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์

ในกรณีที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งไว้และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อไปตามวรรคหนึ่งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชกรแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน

ในกรณีที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคหนึ่ง หรือทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวตามวรรคสองให้นำบทบัญญัติมาตรา 20 วรรคสามมาใช้บังคับกล่าวคือให้คณะองคมนตรีเลือกองคมนตรีคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่ประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวตอนหนึ่งในคำแถลงการณ์ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ภารกิจสำคัญที่จะต้องดำเนินการในบัดนี้คือการดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467ตลอดจนตามราชประเพณีในส่วนของการสืบราชสันตติวงศ์ซึ่งสอดคล้องต้องกัน เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องโดยรัฐบาลจะแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลไว้แล้วเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 จากนั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ในคำแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ อีกตอนหนึ่งยังระบุว่าเมื่อค่ำวันที่ 13 ต.ค. ตนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงรับสั่งว่าท่านทรงรับพระราชทานเป็นองค์รัชทายาทอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่ท่านจะทรงขอเวลาแสดงความเสียใจร่วมกับประชาชนทั้งประเทศไปก่อนในระยะเวลานี้ ส่วนกระบวนการทางกฎหมายในการอัญเชิญสืบพระราชสมบัตินั้นให้รอเวลาที่เหมาะสมคือหลังจากที่พระองค์ทรงทำพระทัยแสดงความเสียใจร่วมกับประชาชนและทรงนึกถึงพระราชบิดา

ทั้งนี้เมื่อทรงร่วมแสดงความเสียใจและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 กับประชาชนผ่านพ้นไปแล้ว เมื่อถึงเวลาเหมาะสมโดยทรงยืนยันว่า ทรงตระหนักในหน้าที่องค์รัชทายาท ในส่วนพระราชภารกิจต่างๆ จะทรงปฏิบัติต่อไปในฐานะสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎ ราชกุมาร

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment