ปู-เพื่อแม้วดับเครื่องชน เลือดเข้าตาพิษคดีจำนำข้าว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/238067

วันอาทิตย์ ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

คดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์คาดว่าเป็นมูลค่ามหาศาลกว่า 7 แสนล้าน และยังส่งผลกระทบมาจนปัจจุบันและอนาคตคืบหน้ามาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ได้ลงนามในคำสั่งปกครองเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ และพวกรวม 6 คน กรณีทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีเก๊ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อรัฐเป็นมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งที่มี นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน สรุปตัวเลขเพื่อฟ้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯชดใช้ความเสียหายแก่รัฐเป็นมูลค่า 3.57 หมื่นล้านบาท ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหาย

คดีโครงการรับจำนำข้าวนั้นแยกเป็นสองส่วนคือ คดีทางอาญาซึ่งมีโทษจำคุกและคดีทางแพ่งฟ้องเรียกค่าเสียหายแก่แผ่นดิน โดยคดีทางอาญาขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายบุญทรง และพวกเป็นจำเลย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำผิดต่อหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและสร้างความเสียหายแก่รัฐมูลค่ามหาศาล ส่วน นายบุญทรง และพวกถูกตั้งข้อหาร่วมกันทุจริตการซื้อขายข้าวจีทูจีเก๊ ซึ่งโทษทางอาญาสูงสุดคือจำคุก 10 ปี และเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม กว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำตัดสินคาดว่าคงจะเป็นราวกลางปีหน้าก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป

ส่วนทางแพ่งเพื่อฟ้องให้จำเลยชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินแยกเป็นสองคดีคือการฟ้องทางปกครองต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐซึ่งขณะนี้กำลังรอการสรุปตัวเลขการชดใช้โดยคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง โดยมีข่าวว่าตัวเลขล่าสุดที่คณะกรรมการเคาะออกมาก็คือ ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ความเสียหายมูลค่าเพียง 35,717 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สำนักนายกฯตั้งขึ้นก่อนหน้านี้เคยสรุปตัวเลขความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวมีมูลค่าสูงถึง 286,639 ล้านบาท

ส่วนการฟ้องทางแพ่งอีกคดีหนึ่งก็คือ กรณีซื้อขายข้าวจีทูจีเก๊ที่มีการลงนามในคำสั่งปกครองให้ นายบุญทรง และพวกชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐเป็นมูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย นายบุญทรง ต้องชดใช้ราว 1.7 พันล้านบาท นายภูมิ 2.2 พันล้านบาท และอีก 4 คน รายละ 4 พันล้านบาท คือ พ.ต.น.พ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ

คดีฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายคืนแก่รัฐเริ่มเดินหน้าด้วยมาตรา 44 ที่เปิดทางให้กรมบังคับคดีซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการยึดทรัพย์เป็นผู้ดำเนินการ ประกอบกับคำสั่งตามมาตรา 44 ที่ให้การคุ้มครองสร้างความมั่นใจแก่ข้าราชการว่าจะไม่ถูกเช็คบิลในภายหลังทำให้การเดินหน้าคดีทางแพ่งเป็นไปอย่างราบรื่นไม่เกิดการสะดุดเกียร์ว่างจากข้าราชการที่เกี่ยวข้อง

สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายบุญทรง ตลอดจนบรรดาบริวารระบอบทักษิณทั้งหลายพยายามดิ้นรนหนีโทษความผิดสุดฤทธิ์โดยพยายามตะแบงอ้างว่าคดีโครงการรับจำนำข้าวเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองและตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะเดียวกัน ก็ข่มขู่บรรดาข้าราชการว่าให้ระวังจะถูกเอาคืนหากระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจอีกครั้ง หรือแม้แต่ขู่จะฟ้องกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

อาการดังกล่าวสะท้อนถึงความหวาดหวั่นและดิ้นรนหวังเอาตัวรอดในยามใกล้เข้าตาจน และที่สำคัญกว่าคดีทางแพ่งก็คือคดีทางอาญาที่มีโทษถึงขั้นจำคุก ซึ่งหากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกผิดจริงและให้รับโทษโดยไม่รอลงอาญาเท่ากับต้องเดินเข้าคุกทันที และที่สำคัญคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายบุญทรง ต้องปิดฉากหมดอนาคตทางการเมืองเนื่องจากรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกหมดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับตลอดชีวิตซึ่งนี่คือสิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายบุญทรง หวาดผวาที่สุด

ทั้งนี้คดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นข่าวใหญ่อื้อฉาวที่ถูกจับตาจากสังคมว่าจะมีจุดจบอย่างไร โดยคนที่โกงชาติปล้นแผ่นดินสร้างความล่มจมให้ชาติบ้านเมืองจะลอยนวลหรือไม่ หรือจะเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่สร้างบรรทัดฐานให้เห็นว่า ใครก็ตามที่ทำร้ายแผ่นดินแม้จะเป็นถึงอดีตนายกฯหรือยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตามต้องชดใช้กรรมที่ก่ออย่างสาสมเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment