โลกอาลัยน้อมถวายสักการะ แด่ภัทรมหาราชผู้ยิ่งใหญ่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/241244

วันเสาร์ ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงเป็นKing Of Kings ซึ่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกอย่างไม่ต้องสงสัยและไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อนายสุวพันธุ์ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯเปิดเผยว่า ขณะนี้มีพระมหากษัตริย์และประมุขประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งมาเลเซีย สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ผู้นำประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์และภริยา ผู้นำกัมพูชา ผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผู้นำรัฐกาตาร์ ผู้นำซาอุดีอาระเบีย ผู้นำฟิลิปปินส์ ผู้นำสาธารณรัฐแซมเบีย ผู้นำสหรัฐอเมริกา ผู้นำเกาหลีใต้ ผู้นำสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ ผู้นำหมู่เกาะมัลดีฟส์ ผู้นำประเทศแกมเบีย และผู้นำญี่ปุ่น ได้แจ้งความประสงค์มายังทางการไทยอย่างเป็นทางการเพื่อขอเดินทางมาร่วมไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายบัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ส่งสารแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังรัฐบาลไทยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ รวมทั้งสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติได้ลดธงครึ่งเสาเพื่อแสดงความไว้อาลัยและสดุดีในพระเกียรติยศอย่างสูงสุด ล่าสุดการประชุมองค์การสหประชาชาติเพื่ออำลาตำแหน่งของนายบัน คี มูน ที่จะพ้นวาระการดำรงตำแหน่งเลขาธิการองค์การสหประชาชาติในเร็วๆ นี้ได้ยืนไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ซึ่งที่ผ่านมาองค์การสหประชาชาติได้สดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยว่า เป็นพระมหากษัตริย์นักคิดนักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งยากที่จะหาพระมหากษัตริย์องค์ใดในโลกนี้เสมอเหมือน โดยองค์การสหประชาชาติเคยมอบรางวัลแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาแล้วหลายรางวัล รวมทั้งการนำปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจแบบพอเพียงเป็นต้นแบบเพื่อให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกใช้เป็นแนวทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

นอกจากเป็นราชาแห่งราชันที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลกเป็นเวลาถึง 70 ปีแล้ว สื่อต่างชาติยังยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศว่า เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงเหน็ดเหนื่อยมากที่สุดในโลกพื่อความผาสุกของพสกนิกรของพระองค์

การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงสามารถครองใจคนทั้งโลกและคนไทยทั้งประเทศก็เนื่องด้วยทศพิธราชธรรม 10 ประการที่ทรงยึดถือปฏิบัติอย่างจริงจังตลอดการครองราชย์ ประกอบด้วย

1.ทาน คือการให้โดยทรงช่วยเหลือประชาชนในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศโดยไม่แยกชั้นวรรณะ

2.ศีล ทรงตั้งใจออกผนวชและศึกษาหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจังและแม้จะลาสิกขาบทแล้วก็ยังทรงนำหลักพระพุทธศาสนามาใช้ในการปกครองแผ่นดินให้ร่มเย็น

3.บริจาค ทรงบริจาคสิ่งของพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนอย่างมิได้ขาด หรือแม้แต่บริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์ที่มีผู้ทูลเกล้าฯถวายเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษาที่เรียนดีแต่ยากจน รวมไปถึงการบริจาคทรัพย์และที่ดินส่วนพระองค์ที่มีผู้บริจาคเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนทั่วประเทศใด้ดีขึ้น

4.อาชวะ ทรงมีความซื่อตรงไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง และมีจิตใจที่ใสสะอาดไม่มีอคติหรือคิดร้ายต่อใคร

5.มัทวะ ทรงมีความอ่อนโยนไม่ถือพระองค์และไม่ดูหมิ่นผู้ใด

6.ตบะ ทรงมีความเพียรอย่างแรงกล้าไม่ย่อท้อโดยมุ่งที่จะทำให้พสกนิกรของพระองค์อยู่เย็นเป็นสุขซึ่งพิสูจน์ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งที่ทรงตรากตรำเพื่อพสกนิกรของพระองค์มาตลอดระยะเวลายาวนานถึง 70 ปี

7.อักโกธะ หรือความไม่โกรธ ซึ่งทรงเป็นผู้ที่มีอารมณ์เยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีเหตุให้ทรงพระพิโรธ แต่ก็ทรงข่มพระทัยจนความโกรธมลายหายไป

8.อวิหิงสา ทรงไม่เบียดเบียน เอาเปรียบหรือสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นไม่ว่าจะโดยทางตรงทางอ้อม หรือแม้แต่สัตว์

9.ขันติ ทรงมีความอดทนเป็นเลิศ ซึ่งไม่ว่าจะยากลำบากตรากตรำสักเพียงใดโดยเฉพาะการเสด็จฯออกพบปะกับพสกนิกรในถิ่นทุรกันดาร พระองค์ก็ไม่เคยย่อท้อปริปากบ่น แต่จะทรงมุ่งมั่นประกอบพระราชกรณียกิจให้ลุล่วงจนมีคำกล่าวว่าไม่มีพื้นที่ใดในประเทศไทยที่พระองค์ไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปถึง

10.อวิโรธนะ อันหมายถึงความเที่ยงธรรม ซึ่งสะท้อนจากปฐมบรมราชโองการที่พระองค์ทรงมีกระแสพระราชดำรัสเมื่อเริ่มครองราชย์ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม”

ดังนั้นเพื่อแสดงให้โลกรับรู้ถึงความจงรักภักดีของมวลมหาประชาชนไทยที่มีต่อพระภัทรมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ขอปวงชนชาวไทยผู้จงรักภักดีทุกหมู่เหล่าร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมแสดงความไว้อาลัยแด่พ่อแห่งแผ่นดินด้วยการรวมพลังร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในวันที่22 ต.ค.นี้บริเวณถนนหน้าพระลานกำแพงพระบรมมหาราชวังซึ่งจะมีการบันทึกภาพเป็นประวัติศาสตร์ที่คนรุ่นหลังจะเล่าขานกันอีกนาน

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment