ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 16 มิ.ย. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/639284

การคิดค้นเริ่มแรก นำถุงพลาสติกสีขาวขุ่น, เขียว, ดำและสีฟ้า มาทดลองห่อ ปรากฏว่ายังมีปัญหาเหมือนถุงพลาสติกที่เกษตรกรใช้ จึงเปลี่ยนมาใช้วัสดุกันร้อน เพราะกระบวน การสร้างสีผลไม้ต้องควบคุมอุณหภูมิกลางวัน และกลางคืนไม่ให้ต่างกันเกิน 10 ํ C ถึงจะช่วยให้สีผลเข้มขึ้น

โดยนำฉนวนกันความร้อนชนิดโฟมหนา 2 มิลลิเมตร มาตัดเย็บเป็นถุงขนาด 11×12 นิ้ว ด้านบน เย็บผ้าตีนตุ๊กแก เพื่อให้สามารถพับติดได้ง่าย (ต้นทุน 2-6 บาทต่อใบ) สามารถห่อชมพู่ 4 ลูกต่อช่อ ส่วนก้นถุงใช้เชือกด้ายดิบขนาดเส้น 2 มม. ร้อยไว้ด้านในปล่อยปลายเชือกออกมาด้านนอก ยาวด้านละ 5 นิ้ว ทำหน้าที่ดูดซับ ระบายน้ำออกจากถุง เพราะใช้วิธีเจาะรู หรือตัดก้นถุงระบายน้ำ จะทำให้เพลี้ย แมลงเข้าไปภายในได้
ผลการทดลองตั้งแต่กลางปี 2558 ในสวนชมพู่ที่ผ่านการรับรอง GAP เปรียบเทียบกับการห่อด้วยถุงพลาสติกที่เกษตรกรใช้ ปรากฏว่า ชมพู่ที่ห่อด้วยถุงฉนวนกันความร้อนมีผิวมันวาว สีแดงสดเข้มสม่ำเสมอ เมื่อนำไปวัดด้วยเครื่องวัดความแน่นเนื้อ พบว่าความกรอบอยู่ที่ 66.7 N/CMz วัดความหวานได้ 13 บริกซ์ ในขณะที่ชมพู่ห่อด้วยพลาสติก มีความแน่นเนื้อแค่เพียง 56.9 N/CMz ส่วนความหวาน 10.5 บริกซ์แค่นั้น

แม้การห่อด้วยถุงฉนวนต้นทุนจะสูงกว่าถุงพลาสติกทั่วไป แต่สามารถนำมาล้างผึ่งให้แห้ง หากดูแลดี สามารถนำกลับมาใช้ได้นานถึง 10 ปี และก่อนนำไปใช้ควรฉีดพ่นสารกันเชื้อรา ฉีดเคลือบด้านใน เป็นวิธีที่ช่วยให้เจ้าของสวนไม่ต้องฉีดพ่นยากันเชื้อรา เพลี้ยแป้ง แมลงหวี่และแมลงวันทอง.